MGR Online - บช.ก.บุกรวบไต้ก๋งเรือประมงขบวนการค้ามนุษย์ บังคับลูกน้องจับเสพยา ซ้อมทรมานใช้แรงงานเยี่ยงทาส
วันนี้ (1 มิ.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน. นำกำลังจับกุม นายบุญธรรม ทองอนันต์ อายุ 52 ปี ไต้ก๋งเรือปราบสมุทร 39 ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 825/2565 ลงวันที่ 27 เม.ย. 65 ข้อหา “สมคบกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์, ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์, ร่วมกันใช้อุบายหลอกลวง หรือ ใช้กำลังประทุษร้ายบังคับข่มขืนใจพาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักร, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น, ทำร้ายร่างกายผู้อื่น” ได้ที่ ท่าเรือเจ้าพระยากิจประมง เทศบาลบางปูท้ายบ้าน ม.6 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ตำรวจสอบสวนกลางกระจายกำลังเปิดยุทธการ “เรือมนุษย์” กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายสำคัญ 6 จุด ในหลายพื้นที่เพื่อกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์ หลังพบว่า มีการหลอกลวงบังคับใช้แรงงานบนเรือประมงน่านน้ำประเทศมาเลเซีย โดยทำกันเป็นกลุ่มขบวนการ โดยเริ่มตั้งแต่กลุ่มนายหน้าจัดหาเหยื่อ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างจังหวัด นั่งรถไฟเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ อ้างว่า จะพาไปทำงานได้รับค่าตอบแทนสูง ก่อนพาไปส่งต่อให้กับเจ้าของเรือประมงแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร โดยกลุ่มนายหน้าจะได้ค่าตอบแทน คิดเป็นเงิน 50,000 บาท ต่อแรงงาน 1 คน
ต่อมาเจ้าของเรือประมงก็จะนำแรงงานเหล่านี้ ลงเรือประมงล่องออกสู่อ่าวไทย ก่อนแอบลักลอบออกนอกเขตน่านน้ำไทย เพื่อไปทำประมงในเขตน่านน้ำประเทศมาเลเซีย โดยระหว่างที่อยู่บนเรือก็จะมีไต้ก๋งเรือ คอยควบคุมและบังคับให้แรงงานเหล่านี้ทำงานหนักเป็นเวลาต่อเนื่องติดต่อกัน ได้พักวันละไม่เกิน 4 ชั่วโมง พร้อมกับนำยาเสพติดมาให้เสพจนติด เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองให้ยอมอยู่ในความควบคุม หากคนใดไม่ยอมทำตามก็จะถูกทำร้ายทุบตี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จนนำมาสู่การเปิดยุทธการดังกล่าว พร้อมกับสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าวได้จนเกือบครบทั้งหมด คงเหลือเพียง นายบุญธรรม ผู้ต้องหารายนี้ที่ทำหน้าที่เป็นไต้ก๋งเรือปราบสมุทร 39 ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี กระทั่งเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายบุญธรรม กำลังขับเรือเข้าเทียบท่าที่ จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้กล่าว
จากการสอบสวน นายบุญธรรม ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า ช่วงเวลานั้นทำหน้าที่เป็นไต้ก๋งเรือลำดังกล่าวจริง แต่เป็นการมาทำแทนไต้ก๋งเรือคนเก่า ซึ่งไม่เคยทำร้ายลูกเรือหรือบังคับเสพยาแต่อย่างใด จึงนำตัวส่ง กก.5 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป