ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.จากก้าวไกล ขอบคุณคะแนนเสียงประชาชน ยืนยัน ส.ก. ก้าวไกล พร้อมทำงานกับผู้ว่าฯ กทม. ที่ทำงานเพื่อประชาชน ยังไม่ประเมินเป็นไปตามเป้าหรือไม่
วันนี้ (22 พ.ค.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นลำดับเท่าไร ความสำคัญคือ การขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจเรา ทุกๆ คะแนน คือ กำลังใจ และความไว้วางใจที่มีต่อพรรคก้าวไกล และเพื่อนร่วมงานของตน คือ ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทุกคน จึงขอขอบคุณประชาชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ นายวิโรจน์ ระบุว่า เดี๋ยวต้องรอให้นับคะแนนครบ จึงจะประเมินได้ การประเมินตอนนี้ยังเร็วเกินไป และเดี๋ยวจะขอประเมินในภาพรวมจริงๆ ก่อน แต่ยืนยันว่า ตนและเพื่อนผู้สมัคร ส.ก. และทีมงานทุกคนได้วางยุทธศาสตร์เอาไว้ และได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจจะทำไว้ครบถ้วนแล้ว ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ต้องน้อมรับและเคารพผลการเลือกตั้งของประชาชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้สมัครที่มีแนวคิดตรงข้ามกับรัฐบาลรวมกันแล้วเกินกว่า 60% จะส่งผลต่อพรรคการเมืองใหญ่อย่างไร วิโรจน์ตอบว่าสั้นๆ ก็คือ คนกรุงเทพฯ สิ้นหวังกับรัฐบาลแล้ว และการโหวตเชิงยุทธศาสตร์ไม่ได้มีผลจริง เพราะประชาชนต้องการเลือกสิ่งที่ตนต้องการมากที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการประเมินทางยุทธศาสตร์ของพรรคที่วางไว้ นายวิโรจน์ ตอบว่า เดิมมีผู้ประเมินหลายคนมาก แต่หลังๆ ไม่ประเมินแล้ว เพราะต่างคนต่างก็ประเมินต่างกันไป รอนับจริงเลยดีกว่า แต่เมื่อประเมิน KPI เราประเมินสิ่งที่อยากจะทำนั้นได้ทำตรงตามแผนหรือไม่
ส่วน ส.ก. ประเมินไว้ว่า จะได้กี่คน นายวิโรจน์ ตอบว่า ไม่ได้ประเมินว่าจะได้กี่คน เพราะประเมินยากมาก การทำโพลก็ทำได้ส่วนหนึ่งและจำนวนเสียงค่อนข้างจำกัด ดังนั้น การทำโพลรายเขตที่แม่นยำค่อนข้างจำกัดจริงๆ จึงทำเหมือนเดิม คือ การทำตามแผน หาเสียง พบปะประชาชน ซึ่งเพื่อนร่วมงานของตนก็ทำได้ตามแผนที่วางไว้ ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ต้องลุ้นกัน พร้อมยืนยันว่า ส.ก. ก้าวไกล พร้อมทำงานให้ประชาชน ผู้ว่าฯ กทม. คนใดพร้อมทำงานให้กับประชาชน ส.ก. ก้าวไกล ก็พร้อมทำงานกับผู้ว่าฯ กทม. คนนั้นเช่นกัน ถ้ามีจุดยืนตรงกัน ส.ก. ก้าวไกล ก็สามารถทำงานกับใครก็ได้
นายวิโรจน์ ยังขอบคุณประชาชนที่ออกมาเลือกตั้ง ติติง ให้กำลังใจกับทีมพรรคก้าวไกล ทุกเสียงสะท้อนที่มาที่ตน พรรค และเพื่อนผู้สมัคร ส.ก. ได้น้อมรับไว้ทั้งหมด และจะปรับปรุงตัวให้การทำงานเพื่อประชาชนดีขึ้น
นายวิโรจน์ ยังยืนยันว่า คนต่างจังหวัดก็ต้องการเมืองที่คนเท่ากัน ดังนั้น การแก้ปัญหาในการจัดงบประมาณหรือขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อสร้างความเท่าเทียมให้คนทุกคนในประเทศนี้ได้รับการใส่ใจดีเสมอกัน ก็คงเป็นธงใหญ่ของพรรคก้าวไกลที่จะต้องปักธงอนาคตต่อไป