MGR Online - ผู้ช่วย ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความมั่นคงด่าน ตม.ชายแดนภาคตะวันออก กำชับ 9 แนวทางปฏิบัติเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน รองรับการเปิดประเทศ เน้นย้ำสกัดกั้นขบวนการค้าแรงงานต่างด้าว
วันนี้ (5 พ.ค.) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม รอง ผบช.สยศ.ตร., พล.ต.ต.สรร พูลศิริ รอง ผบช.ศ. และ พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผบก.ตท. ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมติดตามและกำชับการปฏิบัติงานของตำรวจที่มีหน้าที่รับผิดชอบในงานความมั่นคง ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ตม.จว.จันทบุรี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติในการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ในช่องทางบก รองรับนโยบายการเปิดประเทศของ ศบค. และได้มอบอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม และหน่วยงานอื่นที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ต่อมาในเวลา 14.15 น. ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม ตม.จว.ชลบุรี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ มาตรการทางสาธารณสุข และมาตรการความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าในพื้นที่ จว.ชลบุรี และได้มอบอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ชลบุรี
พล.ต.ท.ประจวบ เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกรณีสถานการณ์ด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน เนื่องจากการเปิดประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวัง สอดส่องดูแลสถานการณ์ด้านความมั่นคง สกัดกั้น สืบสวนปราบปรามขยายผลเครือข่ายขบวนการกระทําความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนการขนย้ายและการค้าแรงงานต่างด้าวที่แอบลักลอบเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดนโดยผิดกฎหมาย และการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางเข้าประเทศ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.(มค.) ได้มอบหมายให้ตนพร้อมคณะลงพื้นที่ในวันนี้
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวต่อว่า ได้กำชับสั่งการให้หน่วยถือปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และ ตร. ตามแนวทางการปฏิบัติ 9 ประการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง ดังนี้
1. ให้ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และ ตร. ในการบริการและอำนวยความสะดวกแก่คนต่างด้าว ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาความมั่นคงของประเทศ
2. ให้เตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว และผู้ที่จะเดินทางเข้าออกราชอาณาจักร ให้ตรวจสอบหนังสือเดินทาง การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ตลอดจนบัญชีคนเฝ้าระวัง หมายจับต่างๆ ก่อนอนุญาตให้เข้าออกราชอาณาจักร และการกระทำความผิดในรูปแบบต่างๆ ให้เป็นไปตามนโยบายของ ผบ.ตร. โดยให้ประสานงานกับหน่วยงานตำรวจในพื้นที่ และหน่วยงานข้างเคียงอย่างใกล้ชิด
3. การผลักดันส่งกลับคนต่างด้าวออกนอกราชอาณาจักร ในกรณีของคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง หรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) และคนต่างด้าวที่ถูกเพิกถอนวีซ่า ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ สตม.กำหนดไว้ โดยเคร่งครัด
4. ให้ดำเนินการตามแนวทาง และมาตรการที่กำหนด กรณีพบบุคคลเฝ้าระวัง มีหมายจับต่างประเทศ หรือหมายจับตำรวจสากล ให้แจ้ง ตร.ทราบ ผ่าน ตท. เพื่อสั่งการต่อไป
5. ให้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการ นายจ้าง และแรงงานสัญชาติเมียนมา ดำเนินการภายในกรอบเวลาตามที่ศูนย์พิจารณาให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่ออนุญาตให้ทำงานและออกหนังสือรับรองสถานะบุคคล (Certificate of Identity : CI)
6. ให้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการและสอดคล้องตามมาตรการทางสาธารณสุข
7. หากมีนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่จะเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรจำนวนมาก ให้ปรับแผนเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้บริการได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตระหนักว่า งานตรวจคนเข้าเมือง เป็นงานบริการและสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ กรณีมีนักท่องเที่ยวมาติดต่อราชการจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ให้บริการต้องมีจิตแห่งการบริการ (Service mind) สอบถามพูดคุย ให้คำแนะนำและการช่วยเหลือ เพื่อแสดงออกถึงการใส่ใจและรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ กรณีที่ทำการของหน่วยใดที่พิจารณาแล้วยังมีความไม่เหมาะสม ให้ผู้บังคับบัญชาเร่งรัดจัดหาสถานที่ใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาใช้บริการ มิให้ปรากฏภาพการนั่งรอในเต็นท์ การยืนต่อแถวยาว เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ
8. ช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมาย ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง ระมัดระวังในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ พฤติกรรมการแสดงออกต่างๆ ตลอดจนห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ใดๆ ที่มิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งสิ้น
9. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ดูแล เอาใจใส่ผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัวอย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ชีวิตความเป็นอยู่ ปัญหาหนี้สินต่างๆ สวัสดิการที่พึงจะได้รับแก่ตนเองและครอบครัว ตลอดจนมาตรการป้องกันการติดเชื้อ โควิด-19 การจัดหาวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมเจ้าหน้าที่ทุกนาย
“ขอขอบคุณหน่วยร่วมบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยตำรวจทุกหน่วย กองกำลังชายแดนฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครองและหน่วยสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมบูรณาการทำงานด้านความมั่นคงในทุกมิติ ให้บรรลุผลสำเร็จตามนโยบายของรัฐบาล” ผู้ช่วย ผบ.ตร.ระบุ