พระพยอม ชี้ อดีตพระกาโตะ ชิงสึกก่อนถูกคณะสงฆ์สอบ ชี้ เป็นเทคนิค เชื่อถูกกดดัน ระบุ ยังสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงิน เอาผิดฐานปาราชิกได้
วันนี้ (2 พ.ค.) ที่วัดสวนแก้ว ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี หมอปลา มือปราบสัมภเวสี เข้ากราบ พระราชธรรมนิเทศน์ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อสอบถามถึงกรณีอดีตพระกาโตะ ที่รีบชิงสึกก่อนการตรวจสอบทางคณะสงฆ์แล้วเสร็จ จะมีผลดีผลเสียหรือ พระพยอม เปิดเผยว่า การรีบสึกก่อนคณะสงฆ์จะตรวจสอบอาจจะเป็นเทคนิค หรือมีคนกดดัน จึงเลือกทางออกนี้เป็นการเฉพาะหน้าก่อน อย่างไรก็ตาม คณะสงฆ์ผู้ปกครองก็ยังสามารถตรวจสอบ ทั้งเรื่องการเงินและความผิดฐานอาบัติปาราชิกได้ หากกรณีของพระกาโตะเป็นเรื่องจริง ก็เปรียบเสมือนกับตาลยอดด้วน ที่ไม่มีโอกาสแทงยอดใหม่ขึ้นมาได้ คนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ก็เหมือนกับไม่มีโอกาสที่จะเจริญงอกงามในพระธรรมวินัย และเหมือนขยะในทะเลที่ไม่นานก็ต้องถูกคลื่นซัดขึ้นหาด
ส่วน พระย้อย ตามหลักพระธรรมวินัยการออกมาแถ หรือให้ข้อมูลว่าร้ายพระสงฆ์ด้วยกัน ก็มีความผิดสังฆาทิเสส ต้องอยู่กรรมเป็นเวลา 6 คืน ขณะที่ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี เปิดเผยว่า เรื่องนี้ใบตองผู้เสียหาย ยอมออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของอดีตพระกาโตะ ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน แต่ด้วยความที่ ใบตอง ป่วยเป็นไบโพลาร์ อารมณ์จะแปรปรวนและเวลาโมโห เขาจะทำอะไรลงไปโดยที่ไม่รู้ตัว เช่น การส่งคลิปให้กับพระย้อย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ทำไปเพราะว่าโมโห หมอปลา อยากให้สังคมเห็นใจคนที่ออกมาตีแผ่เรื่องราวแบบนี้ ไม่ใช่ไปซ้ำเติม ทั้งพระย้อยและผู้เสียหาย รวมถึงหมอปลายังขอบคุณ สื่อในพื้นที่ที่กล้านำเสนอเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ต่างจากบางพื้นที่ที่หมอปลาเคยไปจับพระ จะมีการช่วยเหลือปกป้องกัน ทั้งที่รู้ว่าผิด พระอาจารย์พยอม ชื่นชมหมอปลา ที่ออกมาปกป้องพระพุทธศาสนา แต่ขอให้หมอปลา ไม่ก้าวร้าว แต่เอาจริง อย่ากลัว เพราะความกลัวทำให้เสื่อม ทำให้คนไม่กล้าออกมาปกป้องพระพุทธศาสนา ยังฝากทิ้งท้ายถึง หมอปลา เวลาไปจับพระที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ขอให้ทำงานกันเป็นทีมและตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่นหนารัดกุม