ศาลให้ฝากขัง “ส.จ.เอี้ยง” ทำลายหลักฐานคดียิงถล่มรถนายก อบต.บางสมบูรณ์

ศาลอาญาอนุญาตฝากขัง “ส.จ.เอี้ยง” ทำลายหลักฐานคดียิงถล่มรถนายก อบต.บางสมบูรณ์ ด้านญาติยื่นโฉนดที่ดินกว่า 6 ล้านบาท แต่วืดประกัน

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (28 เม.ย.) พนักงานสอบสวนกองปราบปราม (บก.ป.) ได้นำตัว นายนพดล อานทอง อายุ 51 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก หรือ ส.จ.เอี้ยง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 802/2565 ลงวันที่ 25 เม.ย. 2565 ในข้อหา “ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งหลักฐานในการกระทำความผิดเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง” มาฝากขังครั้งแรก ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ต่อศาลอาญาเป็นเวลา 12 วัน
คำร้องฝากขังระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลา 21.20 น. นายภูริวัฒ นิ่มเรือง หรือ “อ๊อด” หรือ “กุมารดำ” อายุ 52 ปี, นายธวัชชัย ศรีชาญ หรือ “วัช” อายุ 48 ปี นายรัฐพล ตันสุวรรณรัตน์ หรือ “บิ๊ก” หรือ “กุมารขาว” อายุ 35 ปี ได้ร่วมกันรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เงิน เป็นพาหนะขับตามรถตู้ยี่ห้อฮุนได สีดำ หมายเลขทะเบียน ฮฮ 9622 กทม.แล้วใช้อาวุธปืนฮาก้ายิงใส่รถตู้คันดังกล่าวที่ ดร.ญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.สมบูรณ์ ผู้เสียหายกับพวกนั่งมา จำนวนหลายนัด โดยมีเจตนาฆ่า ดร.ญาณกร ผู้เสียหายกับพวก

เป็นเหตุให้ นายวัชระ นุชแดง ผู้ขับขี่ และ นายสมชาย ม่วงกาศ ผู้ติดตาม ถูกยิงเสียชีวิต ส่วน นายญาณกร ผู้เสียหาย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ส่วน นายชาญ เจริญรุ่งเรือง ผู้ติดตามอีกคนไม่ได้รับบาดเจ็บ อันเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนสงครามและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียน ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ใด้ไว้ในครอบครองโดยไมได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน
หรือทางสาธารณะโดยไม่ใด้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” หลังเกิดเหตุ ระหว่างวันที่ 2 ก.พ. 2565 เวลา 09.00 น. นายนพดล หรือ ส.จ.เอี้ยง ผู้ต้องหา ทำหน้าที่ช่วยเหลือนำรถยนต์คันก่อเหตุไปขายหรือทำลายหลักฐาน และช่วยเหลือติดต่อซื้อรถยนต์คันใหม่ มาแทนคันเก่าเพื่อไม่ให้มีพิรุธ

หลังเกิดเหตุ นายนพดล หรือ ส.จ.เอี้ยง ผู้ต้องหา นายธวัชชัย และ นายรัฐพล ได้สมคบกันนำรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตชูบิชิ รุ่นแอททราจ หมายเลขทะเบียน ษม 1896 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นยานหาหนะในการก่อเหตไปทำลายหลักฐาน (โดยนำรถคันก่อเหตุไปให้ นายอภิลักษณ์ หรือ ช่างเอ๋ ทอง ซ่อมเคาะพ่นสี ร่องรอยการเฉี่ยวชนของรถคันเกิดเหตุกับรถยนต์ของผู้ตายเพื่อทำลายหลักฐาน ระหว่างที่ช่างกำลังซ่อมรถคันเกิดเหตุ ในวันที่18 ก.พ. 2564 นายนพดล หรือ ส.จ.เอี้ยง ผู้ต้องหา, นายธวัชชัย และนายรัฐพล ได้เดินทางไปที่อู่ซ่อมรถ เพื่อติดต่อขอรับรถ เพื่อให้ นายนวพล หรือ เป๋อ ทรัพย์ประเสริฐ เอาไปขายหรือไปทำลายให้สาบสูญโดยให้ค่าดำเนินการ 10,000 บาท อันเป็นการร่วมกันทำลายพยานหลักฐานในการกระทำผิดเพื่อช่วยเหลือนายธวัชชัย และ นายรัฐพล กับพวก ซึ่งเป็นผู้กระทำผิด

ต่อมาพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับ นายนพดล หรือ ส.จ.เอี้ยง ผู้ต้องหา

กระทั่งวันที่ 27 เม.ย.2565 จึงสามารถจับกุม นายนพดล ผู้ต้องหาได้ที่หน้าบ้านเช่าเลขที่ 23/1 หมู่ 4 ต.ศรีจุฬา อ.เมือง จ.นครนายก จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เหตุเกิดที่ บริเวณถนนสายปากท่อ ต.ศรีจุฬา อ.เมือง จ.นครนายก
ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังระบุว่า ได้สอบสวนผู้ต้องหามาโดยตลอด จะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นโดยจะต้องสอบสวนปากคำพยานอีก 7 ปาก, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร จึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวน มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.
ถึงวันที่ 9 พ.ค. 2565

หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ศาลอาญาพิจารณาแล้วอนุญาตฝากขังได้
ต่อมา ญาติของผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ราคาประเมินกว่า 6 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว

ศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการทำลายพยานหลักฐานในคดีร้ายแรง หากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาอาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เชื่อว่า หาปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาอาจหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง