xs
xsm
sm
md
lg

ปส.ฝากขัง-ค้านประกัน “บังลาย” จ้างวานขนยาบ้าไปจำหน่ายภาคใต้ เกือบ 1 ล้านเม็ด-เฮโรอีน 400 กิโล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือบังลายถูกจับกุม
ตำรวจ ปส. ฝากขัง-ค้านประกัน “บังลาย” แก๊งยาเสพติดรายใหญ่ จ้างวานขนยาบ้าไปจำหน่ายพื้นที่ภาคใต้ เกือบ 1 ล้านเม็ด-เฮโรอีน 400 กิโล ก่อนคุมตัวเข้าเรือนจำ

วันนี้ (11 เม.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 บช.ปส. ยื่นฟ้อง นายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ บังลาย ผู้ต้องหา อายุ 33 ปี ข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (เฮโรอีน) ซึ่งคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัมขึ้นไป ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, และข้อหาอื่นๆ อีกทั้ง นายธวัชชัย ผู้ต้องหานี้ยังเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญาที่ 575/2563 ลงวันที่ 21 ธ.ค. 2563 ของ กลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.4 ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาอื่นๆ เกี่ยวกับยาเสพติด และข้อหาฟอกเงิน เนื่องจากต้องสอบสวนปากคําพยานอีก 7 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษและลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติฯ, รอผลข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือจากบริษัทผู้ให้บริการ จึงขอฝากขังผู้ต้อง ไว้ระหว่างสอบสวนต่อไปอีก กําหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-22 เม.ย. 2565

พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ บช.ปส. ได้ทำการจับกุมตัวนายบุญฤทธิ์ หรือ ส่งแสง กับพวก ซึ่งได้ไปรับยาบ้าจาก จ.ปทุมธานี โดยใช้รถบรรทุก จำนวน 998,000 เม็ด เพื่อจะนำไปส่งในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ตามคำสั่งของเฮียเก้าผ่านการวิดีโอคอล ทาง Messenger Facebook ชื่อ “บังลาย คับ” ต่อมาตำรวจจึงตรวจสอบข้อมูลทางเทคนิค ทราบชื่อ นายธวัชชัย อ้อมชมพู และให้นายบุญฤทธิ์ ดูแล้วยืนยันว่า เป็นคนเดียวกับเฮียเก้าจริง จากนั้นจึงทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมจนทราบว่านายธวัชชัย หรือ เฮียเก้า ได้ซื้อรถบรรทุก 10 ล้อ ให้กับ นายบุญฤทธิ์ เพื่อใช้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางลงสู่ภาคใต้

พนักงานสอบสวนได้จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับนายธวัชชัย และศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับ จากการตรวจสอบในระบบสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (POLIS) ระบบสารสนเทศสถานีตำรวจ (CRIMES) และระบบศูนย์ข้อมูลอาชญากรรม (PDC) พบว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา จากนั้นเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปรับตัวนายธวัชชัย ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวร สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 พร้อมทั้งได้ควบคุมตัว มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถภายในปั๊ม ปตท.ลุงเท่ง ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ต่อเนื่องถึงบริเวณลานดินข้างปั๊มพีทีสาขาสามร้อย หมู่ที่ 6 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2563 ต่อเนื่องกัน และจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสาย ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2565

ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ร่วมกันฟอกเงินและสมคบ โดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และมีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มี การสมคบกัน” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 มาตรา 7(1), 15 วรรคหนึ่ง 15 วรรคสาม (2), 66 วรรคสาม, พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข, พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2535 มาตรา 8 วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ต่อมา ได้มีประกาศใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2565 การกระทำของผู้ต้องหาจึงเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันจําหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน โดยผิดกฎหมายสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำผิดร้ายแรง เกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 1, 50, 127 วรรคสอง, 145 วรรคหนึ่ง 145 วรรคสอง(2) และ 146 วรรคสาม(2), 152, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 31 ก.ค. 61 ข้อ 1, 2  ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 31 ก.ค. 61 ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ลำดับที่ 38 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง การกระทำของผู้ต้องหามีลักษณะการทำงานเป็นเครือข่าย และเป็นภัยต่อสังคม หากได้รับการประกันตัวไป เกรงว่าจะหลบหนี

ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้

วันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ยังได้ยื่นคำร้องฝากขัง นายธวัชชัย หรือ บังลาย อีกคดี กรณีนายธวัชชัย หรือ บังลาย ร่วมกับพวกมียาเสพติดประเภท 1 เฮโรอีนหนัก 400 กก.ราคาประมาณ 400 ล้านบาทไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย, ร่วมสมคบกันมียาเสพติดไว้ในครอบครอง เป็นเวลา 12 วัน จนถึงวันที่ 22 เม.ย.นี้ 

ในชั้นสอบสวน นายธวัชชัย ให้การปฏิเสธทุกข้อหาท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัวถึงที่สุด เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ลักษณะการทำงานเป็นเครือข่าย เป็นภัยต่อสังคม

ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ ไม่มีญาติยื่นประกัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวไปคุมขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น