xs
xsm
sm
md
lg

พม่ารวบ “บังลาย” เครือข่ายยาเสพติดภาคใต้ ส่งกลับไทย พบประวัติเคยช่วยเหลือ “เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ส่งตัว “บังลาย” เอเยนต์ยานรกตัวเป้งเครือข่ายภาคใต้ ซ้ำเป็นหัวหน้าแก๊ง “เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ” กลับไทย หลังหนีกบดานท่าขี้เหล็ก นานนับปี

วันนี้ (8 เม.ย.) ที่ บริเวณด่านสะพาน 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของประเทศเมียนมา ได้ทำการคุมตัว นายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ บังลาย ผู้ต้องหาคดียาเสพติดคนสำคัญ ที่ทางการไทยต้องการตัว มาส่งมอบให้ กับ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. หลังจับกุมตัวได้ขณะหนีกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เมื่อไม่นานที่ผ่านมา

สำหรับ นายธวัชชัย หรือ บังลาย ถือเป็นเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ต้องการตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ จัดอยู่ในระดับสั่งการ มีเครือข่ายจำนวนมากในพื้นที่ภาคใต้ ที่ผ่านมา มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนมาก ที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเมียนมา เข้ามากระจายในพื้นที่ จ.พัทลุง และอีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงยังมีพฤติการณ์คอยจัดหาทีมลำเลียงยาเสพติดลอตใหญ่ๆ ให้กับกลุ่มเจ้าของยาเสพติดกลุ่มอื่นจากประเทศเมียนมา ผ่านเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยเพื่อลำเลียงส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ซึ่งตัวของ นายธวัชชัย จะเคลื่อนไหวอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เป็นหลัก

นอกจากนี้ นายธวัชชัย หรือ บังลาย ยังถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่คอยให้การช่วยเหลือ น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย อายุ 22 ปี กับพวก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม อายุ 22 ปี ในพื้นที่ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ที่กลายเป็นข่าวดังครึกโครม เมื่อปี 2560 ขณะหนีไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ก่อน น.ส.ปรียานุช และ พวก จะมาถูกทางการเมียนมาจับกุมพร้อมส่งตัวกลับไทย ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ทางการไทยจึงได้ประสานความร่วมมือกับทางการเมียนมา ให้ช่วยกดดันกวาดล้างจับกุมกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือ กลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศ อย่างต่อเนื่องเรื่อยมา ก่อนที่ต้นปี 2563 ทางเมียนมา สามารถจับกุมตัวนายธวัชชัย ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก พร้อมกับส่งตัวกลับมายังประเทศไทย แต่เนื่องจากขณะนั้น นายธวัชชัย มีเพียงหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ข้อหา “เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษ” ติดตัวเพียงแค่คดีเดียว จึงถูกตัดสินจำคุกเพียงแค่ 14 วัน เมื่อออกมาแล้วจึงย้อนกลับไปหลบซ่อนตัว เคลื่อนไหวเรื่องการค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตามเดิม

ต่อมา ช่วงเดือนตุลาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 2 คดี แบ่งเป็น ตำรวจ บก.ปส.4 จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมยาบ้า 1 ล้านเม็ด และ ตำรวจ บก.ปส.3 จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 6 คน พร้อมเฮโรอีน จำนวน 1,000 แท่ง น้ำหนักประมาณ 400 กก. จึงขยายผลต่อเนื่องจนทราบว่าผู้อยู่เบื้องหลังยาเสพติดลอตใหญ่ทั้ง 2 คดีดังกล่าว คือ นายธวัชชัย หรือ บังลาย ผู้ต้องหารายนี้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับจำนวน 2 คดี ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดและสมคบ” และ ร่วมกันมียาเสพติด, สมคบและฟอกเงิน” พร้อมกับขยายผลกวาดล้างจับกุมเครือข่ายที่ยังอยู่ในประเทศไทย ได้จำนวนหลายราย ยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ก่อนประสานทางการประเทศเมียนมา ช่วยร่วมกดดันทำให้สามารถตามจับกุมตัว นายธวัชชัย ได้อีกครั้ง จนนำมาซึ่งการส่งมอบตัวผู้ต้องหารายนี้กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยอีกครั้งดังกล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น