MGR Online - ป.ป.ส. ร่วม ตร.ออสเตรเลีย ขยายผลจับสาวแสบ มือโอนเงิน-ขนยาเสพติดข้ามชาติ สารภาพซุกไอซ์เครื่องปรินเตอร์ส่งออสเตรเลีย มาแล้ว 5 ครั้ง
วันนี้ (8 เม.ย.) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ผลการปฏิบัติการภายใต้หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ส., กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, ศุลกากร และ ศรภ. ร่วมกันจับกุม น.ส.อัจฉราวรรณ แก่นจันทร์ พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษ (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 989 กรัม ซุกซ่อนเครื่องปรินเตอร์เก่าใช้แล้ว
นายวิชัย เผยว่า สืบเนื่องจาก สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (AFP) ประสานการข่าวร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ส. จนสืบสวนทราบว่า น.ส.อัจฉราวรรณ แก่นจันทร์ ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยส่งทางพัสดุภัณฑ์จากประเทศกัมพูชา มายังคอนโดแห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. จากนั้นจะนำยาเสพติดดังกล่าวไปฝากบริษัทรับส่งของปลายทางประเทศออสเตรเลีย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 65 เวลา 10.45 น. น.ส.อัจฉราวรรณ เดินลงมารับพัสดุ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและเปิดตรวจพัสดุพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 989 กรัม ซุกซ่อนเครื่องปรินเตอร์สภาพเก่าใช้แล้วโดยอำพรางทำเป็นช่องลับ
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งพัสดุซุกซ่อนยาเสพติดไปยังประเทศออสเตรเลีย จำนวน 5 ครั้ง โดยทำหน้าที่รับและส่งพัสดุระหว่างประเทศ จำนวน 4 ครั้ง ลักษณะอำพรางซุกซ่อนในฝาลิปสติก แผ่นแม่เหล็กแนบกับกล่องพัสดุ และปรินเตอร์ รวมทั้งมีส่วนร่วมในการโอนเงินค่าขนส่งในคดีตรวจยึด ไอซ์ 56 กิโลกรัม และ เฮโรอีน 13 กิโลกรัม จำนวน 1 ครั้ง ในรูปแบบการส่งของจากประเทศกัมพูชา ผ่านมายังประเทศไทย ก่อนปลายทางประเทศออสเตรเลีย
นายวิชัย กล่าวอีกว่า ตามนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เน้นย้ำการสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดข้ามประเทศ โดยเฉพาะการเข้มงวดกับพัสดุไปรษณีย์ที่ส่งไปยังประเทศปลายทางอย่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และเกาหลี โดยในการจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากการที่ขบวนการการค้ายาเสพติดได้พยายามหลีกเลี่ยงเส้นทางการขนส่งยาเสพติดมาใช้เส้นทางชายแดน กัมพูชา-ไทย มากขึ้น จากเดิมที่จะใช้เส้นทาง ชายแดน เมียนมา-ไทย และ ลาว-ไทย เพื่อหลบเลี่ยงด่านสกัดกั้นยาเสพติดที่เพิ่มความเข้มงวดในบริเวณดังกล่าว
นายวิชัย กล่าวต่อว่า การสกัดกั้นยาเสพติดบริเวณชายแดน ลาว-ไทย มีความเข้มงวดขึ้นมาก เป็นผลจากการประชุม ทวิไทย-ลาว ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 18 ซึ่ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้มีการหารือกับ ดร.คำพัน วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และ พล.ต.ดร.ทองเหล็ก มังหน่อเมก รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างเห็นด้วยและให้คำมั่นในการร่วมมือปราบปรามยาเสพติดและเข้มงวดการสกัดกั้นการขนส่งยาเสพติด ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ บริเวณชายแดน ลาว-ไทย ทำให้นำไปสู่การจับกุมใน 2 คดีใหญ่ ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา คดีแรก ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 11,920,000 เม็ด ที่แขวงบ่อแก้ว และคดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหา พร้อม ยาบ้า จำนวน 3,398,000 เม็ด ไอซ์ 25 กิโลกรัม ที่เวียงจันทน์
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้าย สัปดาห์หน้า สำนักงาน ป.ป.ส.จะประชุมหารือผ่านระบบออนไลน์ ร่วมกับ กัมพูชา ออสเตรเลีย เพื่อสรุปผลการสืบสวนขยายผลของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติในคดีนี้ต่อไป