“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 ตอน วรวิทย์ ได้ไปต่อ วาระร้อน ศาล รธน.ชี้ขาด 8 ปีนายกฯ ตู่
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2565 คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีประธานศาลฎีกาเป็นประธาน ได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 5 ต่อ 0 เสียงว่า “วรวิทย์ กังศศิเทียม” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ “ไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม” ในการดำรงตำแหน่ง ประธานและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
โดยเป็นคำร้องที่ 4 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย “นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ - ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ - จิรนิติ หะวานนท์ - นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม” ยื่นเรื่องผ่านเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้คณะกรรมการสรรหาวินิจฉัย
…วาระการดำรงตำแหน่งของ “วรวิทย์” ที่มีอายุครบ 70 ปี เป็นผู้มีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้าม อันเป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งหรือไม่ ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ
เหตุที่ต้องมีการตีความชี้ขาดก็เพราะบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่เป็นฉบับที่บังคับใช้ขณะที่ “วรวิทย์” เข้าตำแหน่ง กับฉบับปัจจุบันปี 2560 มีความแตกต่างกันในสาระสำคัญ
โดยฉบับปี 2550 ที่กำหนดให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนุญพ้นจากตำแหน่งเมื่อมีวาระครบ 9 ปี หรือมีอายุครบ 70 ปี แต่ในฉบับปัจจุบันปี 2560 กำหนดให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพ้นจากตำแหน่งเมื่อมีวาระครบ 7 ปี หรือมีอายุครบ 75 ปี
สำหรับ “ประธานวรวิทย์” เพิ่งมีอายุครบ 70 ปี เมื่อวันที่ 1 มี.ค.65 ที่ผ่านมา โดยได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 57 จนถึงขณะนี้ถือว่าดำรงตำแหน่งมาแล้ว 7 ปีเศษ
หากยึดตามรัฐธรรมนูญ 50 จะติดเงื่อนไขอายุครบ 70 ปี ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่ถ้ายึดตามรัฐธรรมนูญ 60 ก็จะติดเงื่อนไขดำรงตำแหน่งมาเกินกว่า 7 ปี
อย่างไรก็ดีที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯเท่าที่มีอยู่ 5 คน (ขาดในส่วนของผู้แทนองค์กรต่างๆอีก 4 ราย ที่ไม่ได้แต่งตั้งเข้ามาในวาระนี้ เนื่องจากหมดหน้าที่ไปตั้งแต่ครั้งกระบวนการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น) วินิจฉัยว่า “วรวิทย์” จะได้รับอานิสงส์ในทาง “เป็นคุณ” จากรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ กล่าวคือ จะพ้นจากตำแหน่งก็ต่อเมื่อมีวาระดำรงตำแหน่ง 9 ปี หรืออายุครบ 75 ปี
เมื่อหากตัดข้อสงสัยในเรื่องอำนาจการวินิจฉัยประเด็นนี้ของคณะกรรมการสรรหาฯ ที่บางฝ่ายมองว่าไม่มีอำนาจออกไป ไปดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป จะพบว่า
กรณีของ “ประธานวรวิทย์” จะพ้นวาระการดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากดำรงตำแหน่งครบ 9 ปี ในช่วงเดือน ก.ย.2566
อานิสงส์ดังกล่าวยังครอบคลุมไปถึง 3 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย “นครินทร์-ทวีเกียรติ” และ “ปัญญา อุดชาชน” ที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ด้วย
ขณะที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 5 คนที่เหลือ ซึ่งเข้าตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 จะพ้นจากตำแหน่งก็ต่อเมื่อมีวาระครบ 7 ปี หรือมีอายุครบ 75 ปี ตามบทบัญญัติใหม่
สิ่งที่ค้ต้องติดตามต่อก็คือ เมื่อประธานและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับการวินิจฉัยในทาง “เป็นคุณ” ครั้งนี้ จะมีผลไปถึงการทำงานในอนาคตของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
จากเดิมศาลรัฐธรรมนูญก็ถูกค่อนขอดมาโดยตลอดว่า มักมีคำวินิจฉัยที่ “เข้าทาง” ฝ่ายผู้ถืออำนาจในปัจจุบันมาโดยตลอดอยู่แล้ว
ในอนาคตอันใกล้ก็มีเรื่องสำคัญ 2 เรื่องที่ต้องมาใช้บริการศาลรัฐธรรมนูญในการตีความ
คือ กรณี นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ บัตรเลือกตั้ง 2 ใบขัดรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นโมฆะหรือไม่
และอีกประเด็นที่มีผลโดยตรงต่ออนาคตทางการเมืองของ “นายกฯตู่” กับวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ที่จะครบกำหนดในวันที่ 24 ส.ค.65 นี้ ซึ่งเชื่อแน่ว่าฝ่ายค้านจะยื่นให้ศาลวินิจฉัยอย่างแน่นอน
หากถึงวันนั้นก็เชื่อแน่ว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะกลายเป็นตำบลกระสุนตก ไม่พ้นถูกวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าคำวินิจฉัยจะออกมาในลักษณะใด
-----------------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1