ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด พาพยาบาลสาวแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน ให้ดำเนินคดีกับหนุ่มอ้างเป็นทหารเรือ มาหลอกจดทะเบียนสมรส
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ สน.บางเขน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหาย คือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี พยาบาลสาว เข้าเเจ้งความที่ สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีกับ นายณรงค์ชัย ธนจิรกานต์สกุล หรือ ไตตั้น นายทหารเก๊ที่หลอกลวงให้จดทะเบียนสมรส ในข้อหา ฉ้อโกง กับ กรรโชกทรัพย์ เนื่องจากมีการเรียกเงิน 1 หมื่นบาท เพื่อแลกกับการจดทะเบียนหย่า
น.ส.เอ เปิดเผยว่า เริ่มรู้จักกับฝ่ายชาย คือ นายไตตั้น เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2565 ผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่แอปหนึ่ง โดยนายไตตั้นได้นำรูปของนายทหารยศนาวาเอก มาเเอบอ้างว่าเป็นตัวเอง และทักผู้เสียหายมาก่อน แสดงตัวว่า รับราชการทหารเรือ อยากแต่งงาน จดทะเบียนสมรส สร้างครอบครัว เพราะอายุมากแล้ว ผู้เสียหายจึงได้พูดคุยกันมาระยะหนึ่ง ก็คบหาดูใจกัน และตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกันในวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา
น.ส.เอ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่รีบจดทะเบียนสมรส ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียง 1 เดือน เพราะคิดว่านายไตตั้นเป็นทหารยศนาวาเอกจริง ระหว่างที่คบกัน นายไตตั้น ก็มีการนำรูปที่ถ่ายคู่กับคนในเครื่องแบบมาให้ดู ประกอบกับพูดจาหว่านล้อมต่างๆ นานา จึงไม่ได้เอะใจอะไร แต่หลังจากนั้น ปรากฏว่า นายไตตั้น ได้เข้าไปตีสนิทเพื่อนๆ คนรอบตัวของผู้เสียหาย รวมถึงแม่ของผู้เสียหายด้วย เพื่อหลอกยืมเงิน โดยการอ้างว่า ผู้เสียหายไม่ให้เข้าบ้าน และยึดกระเป๋าเงินไว้ ไม่มีเงินกินข้าว เครียดจนคิดจะฆ่าตัวตาย ทำให้คนใกล้ชิดเกิดความสงสาร จึงมอบเงินให้จำนวนหลักหมื่น
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ในการจดทะเบียนในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต แจ้งกับผู้เสียหายว่าฝ่ายชายได้เคยจดทะเบียนสมรสมาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ทางฝ่ายชายได้พยายามอ้างกับตนเองว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากขณะนั้นทำงานอยู่ต่างประเทศ อีกทั้งฝ่ายชายก็เคยเปลี่ยนชื่อมาหลายครั้ง ส่วนที่ตนเองทราบเรื่องจากคนรอบข้างที่นายไตตั้นไปยืมเงิน นำเรื่องราวมาเล่าให้ฟัง ซึ่งในวันนี้ตัดสินใจจะเลิกรา เเละต้องการหย่า จึงเข้าเเจ้งความ แต่ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ฝ่ายชายได้ติดต่อมา ขอเงิน 10,000 บาท แลกกับการหย่าร้าง และมาจนถึงตอนนี้นายไตตั้น ก็ยังยืนยันว่าตัวเองทำงานรับราชการ
ด้าน น.ส.น้ำผึ้ง ที่ตกเป็นหยื่อถูกนายไตตั้นหลอกยืมเงิน บอกว่า เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา นายไตตั้น ได้เข้ามาตีสนิท โดยเเอบอ้างว่า ตัวเองเป็นทหารองครักษ์รักษาพระองค์ เป็นวิศวกรของกองทัพเรือ มีธุรกิจรับเหมาใหญ่ 4 โครงการ มีลูกน้อง 4 พันคน เเละมีภรรยาเป็นพยาบาล ซึ่งส่วนตัวก็รู้จักกับพยาบาลรายนี้อยู่ก่อนเเล้ว พร้อมกันนี้ นายไตตั้นได้พยายามพูดจาหว่านล้อมเพื่อขอยืมเงิน โดยเล่าปัญหาชีวิต ว่า ทะเลาะกับภรรยา ถูกภรรยาไล่ออกจากบ้าน ยึดกระเป๋าสตางค์ ไม่มีเงินกินข้าว เเละภรรยาก็กำลังจะฆ่าตัวตาย จึงทำให้ตนเองหลงเชื่อ เกิดความสงสารเวทนา จึงให้ยืมเงินไป 3,000 บาท เพราะเห็นว่ามีหน้าที่การงานมั่นคง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อีกทั้งนายไตตั้นก็รับปากว่าจะนำเงินมาคืนในภายหลัง แต่ก็หายไปเลย ติดต่อไม่ได้ วันนี้จึงเดินทางมาเเจ้งความเอาผิด ให้ดำเนินคดีกับนายไตตั้น
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่า มีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อหลายคน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุเพิ่มในคดีฉ้อโกงและข่มขู่กรรโชกทรัพย์
ขณะเดียวกัน ทางกองทัพเรือ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และหากพบว่า มีความผิดก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา กรณีที่แอบอ้าง เอาเครื่องแบบและรูปถ่ายของนายทหารคนดังกล่าวไปหลอกลวงเหยื่อ
สำหรับประวัติของผู้ต้องหาเท่าที่ตรวจสอบ พบว่า มีหมายจับศาลแขวงจังหวัดสุพรรณบุรี ฐานความผิดฉ้อโกง 2 หมายด้วยกัน ตั้งแต่ปี 2562 อย่างไรก็ตาม นายเอกภพ กล่าวว่า ฝากถึงสุภาพสตรีควรตรวจสอบให้ชัดเจน และไม่ควรหลงเชื่อกับบุคคลที่แอบอ้าง ว่า มีตำแหน่งหรือฐานะดี ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนที่จะจดทะเบียนสมรส อีกทั้งวอนประชาชนอย่าทับถมผู้เสียหาย เนื่องจากเหยื่อเป็นผู้น่าสงสารถูกมิจฉาชีพหลอก