ทนายตั้มเดินทางมายัง สน.ลุมพินี ติดตามความคืบคดีหญิงสาวถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ลวนลาม เผย มีผู้ตกเป็นเหยื่ออีกนับ 10 ราย
จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” ระบุว่า มีผู้เสียหายถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคใหญ่พรรคหนึ่งทำการลวนลามโดยไม่สมยอม โดยหลอกลวงว่าจะพาผู้เสียหายไปพูดคุยเรื่องเศรษฐศาสตร์ แต่กลับพูดคุยเรื่องเพศ เรื่องลามกอนาจาร รวมถึงก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับหญิงไทย อายุ 18 ปี 2 คน ในประเทศอังกฤษ
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (14 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ สน.ลุมพินี นายษิทรา เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า ในวันนี้ตนเดินทางมาเพื่อติดตามเรื่องที่ผู้เสียหายเคยแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้พูดคุยกับผู้เสียหายจนทราบข้อเท็จจริงแล้ว ทราบว่า แม่ของผู้เสียหายเองก็ชื่นชอบพรรคการเมืองนี้เช่นกัน เพราะเป็นคนพูดจาดี แต่เมื่อเกิดเรื่องก็เสียความรู้สึกจนต้องมาพบตน อีกทั้งเมื่อมีข่าวออกไป ก็มีเหยื่ออีก 3 คนติดต่อตนเข้ามา ซึ่งมีอายุประมาณ 18 ปีทั้งหมด รายหนึ่งอยู่ที่ จ.ราชบุรี มีแม่ทำงานในพรรคเดียวกันกับผู้ก่อเหตุ อีกรายถูกข่มขืนจนต้องหนีไปประเทศอังกฤษ อีกรายโดนลวนลาม ซึ่งเหยื่อบางรายถูกพาขึ้นคอนโดส่วนตัวด้วย
นายษิทรา กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เพราะตลอดเวลาที่เหยื่อพูดก็แสดงอาการร้องไห้ตลอดเวลา ขณะเกิดเหตุแม้จะขัดขืน พยายามหลบหลีก แต่นักการเมืองคนดังกล่าวก็ใช้กำลัง แม้จะมีคนอื่นอยู่ในร้าน แต่ก็เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเหยื่อทั้งอายและกลัวจึงไม่กล้าขอความช่วยเหลือ โดยพฤติกรรมของนักการเมืองรายนี้ จะมีการพูดคุยทำนองชู้สาวและเรื่องใต้สะดือ ส่วนมากเหยื่อจะอายุประมาณ 18 ปีทั้งหมด ซึ่งตนได้ข้อมูลมาทั้งหมดว่าถูกพาไปขึ้นคอนโดส่วนตัวที่ใด
นายษิทรา กล่าวอีกว่า หากนักการเมืองรายนี้ไม่กลัวความผิด เมื่อวานนี้จะพยายามโทรไปขอโทษผู้เสียหายและแม่เขาทำไม อยากให้ออกมาปฏิเสธ เพราะเชื่อว่าจะนำแชตของแม่ผู้เสียหายมาแสดง ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะทราบดังกล่าว นอกจากนี้ ตนเชื่อว่ามีเหยื่อรวมแล้วเกิน 10 คน ถูกข่มขืนไม่ต่ำกว่า 5-6 คน โดยมีพฤติกรรมในลักษณะนี้มาตั้งแต่ปี 2556 และเหยื่อรายล่าสุดคือเมื่อปีก่อน ทำให้ต้องหนีไปต่างประเทศ หรือเป็นโรคซึมเศร้า โดยสถานที่ที่ใช้ในการก่อเหตุนั้น จะใช้ร้านอาหารแห่งนี้นัดพบหลายครั้ง อีกทั้งผู้ก่อเหตุมักจะข่มขู่เหยื่อในทำนองว่า “รู้หรือไม่ว่าพ่อของตนเป็นใคร” จนทำให้เหยื่อหวาดและไม่กล้าแจ้งความ โดยนักการเมืองรายนี้มีรสนิยมชอบเหยื่อที่มีอาการขัดขืน ทั้งนี้ ขอให้เหยื่อรายอื่นๆ หากถูกกระทำในลักษณะนี้ให้มาแจ้งความเอาผิด เพราะโทษของคดีนี้มาอายุความถึง 20 ปี
โดยส่วนตัวแล้วไม่กลัวจะถูกฟ้อง รวมถึงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็ต้องแจ้งความตอนนี้ เบื้องต้นทราบว่า ตำรวจได้ไปเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านดังกล่าว ที่ตั้งอยู่ชั้นดาดฟ้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 11 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ แล้วเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา แต่ตนไม่ทราบว่าจะเห็นพฤติกรรมหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำผู้เสียหายหลังรับแจ้งความเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ส่วนรายละเอียดความคืบหน้าของคดีนั้น รายละเอียดยังคงอยู่ในสำนวน ไม่สามารถเปิดเผยได้