รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 9 มีนาคม 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ “โซเนวา” เกาะสวรรค์ล่ม รีสอร์ต 6 ดาว กลวง
แม้ไฟที่เผารีสอร์ต โซเนวา คีรี เกาะกูด จะมอดดับไปแล้ว แต่ไฟแห่งความคับข้องใจ ยังคงลุกต่อ
ทั้งจากแขกวีไอพี ที่ต้องหนีตายสุดระทึก และจากคนในโลกโซเชียล ที่รับไม่ได้กับคำแถลงการณ์ของโซเนวา ที่เน้นเอาดีใส่ตัวสุดเว่อ
ใครจะเชื่อ รีสอร์ตหรูหราหมาเห่า ระดับ 6 ดาว ค่าที่พักสูงถึงคืนละ 5 แสน กลับถูกเพลิงไหม้เผาวินาศ แบบม้วนเดียวจบ
ภายในชั่วโมงเดียว วิลล่า 63 ซึ่งเป็นบ้านพักรวมหลังใหญ่สุดของโซเนวา ก็มอดไหม้เหลือแต่เถ้าถ่าน มีแต่สระว่ายน้ำเท่านั้น ที่ต้านทานเพลิงไว้ได้ในสภาพเดิมๆ
ขณะที่ 15 ชีวิตของครอบครัวเศรษฐีและเซเลบ อย่างอดีตนางเอกสาวช่อง 7 “แยม ธมลพรรณ์ ภานุชิตพุทธิวงศ์” และ “หมอโอ๋” แพทย์หญิงจิราภรณ์ อรุณากูร แห่งเพจ “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” ที่รวมญาติมาเที่ยวกัน ต้องดิ้นรนหนีตายสุดระทึก โดยปราศจากการช่วยเหลือ
ทั้งสองยืนยันว่า มองไม่เห็นเลยระบบเซฟตี้ของโรงแรม ไม่ว่าจะเครื่องดักควัน สัญญาณเตือนภัย สปริงเกลอร์ฉีดน้ำ รปภ.รีสอร์ต เจ้าหน้าที่ดับไฟ ไม่มีอะไรสักอย่าง
บาดเจ็บสาหัสทั้งกายใจ แถมต้องสูญเสียทรัพย์สินในกองเพลิงกว่า 20 ล้าน
นอนหลับในสวรรค์วิมานอยู่ดีๆ แต่ตื่นมาเจอนรกทุกสิ่งอย่าง เป็นความรู้สึกของผู้รอดชีวิตไฮโซกลุ่มนี้
แทนที่จะแสดงท่าทีรับผิดชอบ โซเนวากลับออกแถลงการณ์ ที่คล้ายสาดละอองน้ำมันใส่กองเพลิง คำกล่าวอ้างต่างๆ ในแถลงการณ์ ออกจะสวนทางกับประสบการณ์ตรงที่ผู้รอดชีวิตได้รับ ในหลายประเด็น
เช่น 1.ผู้เข้าพักทุกท่านที่อยู่ในวิลล่าดังกล่าว ได้รับการอพยพอย่างปลอดภัย
ความเป็นจริง คือแขกของรีสอร์ต โดดหลังคา เผ่นเข้าป่า อพยพหนีกันตายกันเองล้วนๆ
2.เรามีทีมดับเพลิงที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี รวมทั้งมีทีมพร้อมปฏิบัติการเต็มรูปแบบ
ความเป็นจริงคือ มีนักดับเพลิง อบต. 2 คน มาถึงหลังไฟมอดแล้ว
3.เราสามารถควบคุมเพลิงได้ ทำให้ไม่ลามไปยังวิลล่าและส่วนอื่นๆ ของเกาะหรือรีสอร์ท
ความเป็นจริงคือ ไฟเผาวิลล่า 63 จนวอดทั้งหลัง หมดเชื้อไปเอง
แล้วที่ทำเอาคนอึ้งตามๆกัน ก็เป็นประโยคว่า โซเนวา คีรี ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ความเป็นโซเนวา แท้จริงแล้ว มันคืออย่างไรกันแน่ นักธุรกิจผู้หนึ่ง ซึ่งเคยเดินทางไปพักที่นั่นเมื่อปีที่แล้ว เล่าประสบการณ์ของเขากับทีมงาน “ถอนหมุดข่าว”
เขาบอกว่า การไปพักที่โซเนวา จะไปเองทางรถหรือเรือไม่ได้ ต้องไปทางเครื่องบินเล็กของรีสอร์ตเท่านั้น เหมารวมเป็นแพกเกจ
เมื่อลงสนามบินบนเกาะ รีสอร์ตจะส่งสปีดโบทมารับ ข้ามไปยังอีกเกาะ ณ ที่ตั้งของโซเนวา
นักธุรกิจผู้นี้ เล่าว่า เขาและครอบครัวเข้าพักในวิลล่า 63 เช่นกัน แต่แค่คืนเดียว ก็ขอย้ายไปยังวิลล่าหลังอื่นที่เล็กกว่าถูกกว่า แต่จ่ายเท่าเดิม เนื่องจากสุดทนบรรยากาศวังเวงกุ๊กกู๋
ขณะเข้าพัก แขกรีสอร์ตเหมือนถูกปล่อยเกาะ พวกบัทเลอร์ หรือบริกรส่วนตัว หาตัวยาก ไม่มาคอยดูแลใกล้ชิด
เวลาอยากได้อะไร เขาต้องโทรเรียกบัทเลอร์เท่านั้น เรียกว่ารีสอร์ตให้ความเป็นส่วนตัว แบบดีเกินไป จนแทบจะเรียกว่า ถูกปล่อยเกาะ เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ภาพรวมของการต้อนรับขับสู้ของพนักงานรีสอร์ต ถือว่าดีอย่างน่าประทับใจ ให้ผ่าน
ในแง่ห้องพัก ที่หลับที่นอน ก็ไม่ได้เว่อวังอลังการอะไรเป็นพิเศษ เท่าๆ โรงแรมหรูทั่วไป
แต่ที่น่าตกใจมาก บนแผ่นไม้กระดานของวิลล่า 63 ยังมีหัวตะปูโผล่เหลืออยู่ เขาเดินเตะจนเท้าเจ็บจี๊ด รู้สึกโมโหและข้องใจ ทำไมรีสอร์ต 6 ดาว ดันเหมือนบ้านคนธรรมดา
เช่นเดียวกับอาหารการกิน ก็ไม่ได้เหนือกว่าโรงแรมหรูอื่น แต่ทางร้านของโรงแรม อ้างว่าเป็นผักปลูกเองทั้งหมด จริงเท็จแค่ไหน ตัวเขาเองก็ไม่ทราบ
ถามว่ามาเที่ยวโซเนวา สามารถเอาไปต่อยอด ได้ภาพลักษณ์เป็นคนรวยของจริง ได้หรือไม่? นักธุรกิจผู้นี้ตอบว่า เขาเฉยๆ ไม่รู้สึกอะไรแบบนั้น
และจะไม่ยอมเสียตังค์ เพื่อมาซ้ำสอง
