รายการ “ถอนหมุดข่าว”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ ค่าชีวิตที่แตกต่าง แตงโม-หมอกระต่าย เกี้ยเซี๊ยะ และความเป็นธรรม
สองคดีแห่งปี 2565 คือคดีหมอกระต่าย และคดีแตงโม ต่างมีการเรียกเงินค่าเสียหายจำนวนมากเหมือนๆกัน แต่กระแสสังคม กลับแตกต่างกัน ราวหน้ามือกับหลังเท้า
ตอนนี้คนที่เป็นจำเลยสังคมหมายเลข 1 ไม่ใช่ก๊วนเรือสปีดโบทอีกแล้ว ไม่ว่าจะ “ไฮโซปอ” “เสี่ยโรเบิร์ต” “แซน” หรือแม้แต่จอมปากพาจนอย่าง “กระติก” ที่ยืนหนึ่งเรื่องทัวร์ลงมาตลอด นับแต่เกิดเหตุ
แต่จู่ๆกระแสก็ตีกลับ ถนนทุกสายกลับแห่ไปทัวร์ลง นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่ของแตงโม นิดา กันอย่างร้อนแรง นับแต่จบรายการ “โหนกระแส” เมื่อบ่ายวันที่ 4 มี.ค.
โดยเฉพาะกระแสจากเหล่าดารา ทั้งแบบจัดหนัก ทั้งประชดประชัน นำมาสู่เทรนต์ฮอตอันดับ 1 #มีแม่เมื่อพร้อม
เหตุเพราะนางภนิดา แสดงออกอย่างโฉ่งฉ่าง เปลือยตัวตนออกมาหมดสิ้น ชนิดพิธีกรอย่าง “หนุ่ม กรรชัย” ยังครวญออกมา ผมเหนื่อย ผมเหนื่อย
เริ่มจากการประกาศกลางจอ ว่าตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกของลูกสาวเรียบร้อยแล้ว มีการเจรจาพูดคุยกับ “ไฮโซปอ” เจ้าของเรือ และหนึ่งในตัวผู้ต้องหา ถึงตัวเลขเยียวยาเป็นเงิน 30 ล้านบาท
คำนวณคร่าวๆ จากรายได้ของแตงโม หากยังมีชีวิตเป็นนักแสดงไปจนแก่
น้ำใจจาก “ไฮโซปอ” คนเป็นแม่ออกจะพอใจ ให้อภัย 100% ทั้งที่การสอบสวนทางคดียังไม่ทันได้ข้อสรุป
แต่เอาเรื่องเอาราวกับกลุ่มเพื่อนๆ ของแตงโม พยายามชูซ้ำๆ ออกจอ ให้เป็นเรื่องใหญ่มาก ทั้งการขอร้องอย่าเพิ่งออกข่าว รวมถึงการมีส่วนร่วมจัดงานศพ
และดูเหมือนคุณแม่จะไม่ได้พอใจแค่ 30 ล้าน เพราะท้ายรายการ ได้แพลมๆ ออกมาในส่วนของโรเบิร์ต ก็ต้องจ่ายด้วย ไม่ใช่แค่ไฮโซปอ คนเดียว
ไม่เท่านั้น คุณแม่ยังโพล่งออกมา เชื่อว่าแตงโมไปทำงานเป็นเด็กเอ็นฯ บนเรือลำนั้น ทั้งที่เพื่อนๆ ปฏิเสธเรื่องนี้กันเสียงแข็งมาตลอด
ความผิดหวังของสังคม ไม่ใช่แค่เพราะคนเป็นแม่ตั้งท่าอยาก “เกี้ยเซี้ย” โดยมีเงินเยียวยา 30 ล้านเป็นสิ่งตอบแทน
แต่เพราะใครๆ ก็รู้กันทั้งบาง ว่าแตงโมเติบโตมาแบบไม่มีแม่ ตั้งแต่อายุแค่ 3 ขวบ เธอใช้ชีวิตอันลำบากกับพ่อที่มีฐานะยากจน จนมาเป็นดาราดังอย่างทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะแม่ แม่เพียงเป็นคนให้กำเนิด กับให้ดูดกินน้ำนม เท่านั้น ถ้าจะได้ค่าสินไหมเยียวยา ก็ไม่มีใครว่า ถ้าทำตามครรลองคลองธรรม
เมื่อนำไปเทียบเคียงกับคดีของหมอกระต่าย พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล ที่ถูกบิ๊กไบค์ชนเสียชีวิตคาทางม้าลาย เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
คดีนั้น ครอบครัวหมอกระต่าย ฟ้องร้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก คนขี่บิ๊กไบค์ เป็นเงินถึง 72 ล้านบาท
ไม่เท่านั้น ยังแยกฟ้องกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรียกค่าเสียหายเท่ากันอีก 72 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 144 ล้านบาท
ทนายของครอบครัวหมอกระต่าย เผยว่า จากการคำนวณของรายได้หมอกระต่าย หากยังได้ใช้ชีวิตต่อไป จริงๆจะมากถึง 200 ล้านบาทด้วยซ้ำ หรือหากรวมความเสียหายทางเศรษฐศาสตร์ของชาติก็เป็นเงินถึง 850 ล้านบาท
แม้ตัวเลขฟ้องร้องเรียกค่าชีวิตหมอกระต่าย 144 ล้าน จะมากกว่าจำนวนเงิน 30 ล้าน ที่คุณแม่แตงโมเรียกจากไฮโซปอหลายเท่าตัว แต่ครอบครัวหมอกระต่าย กลับได้รับแต่เสียงเชียร์ให้กำลังใจ
เพราะเป็นท่าทีที่ชัดเจน ที่จะทวงความยุติธรรมให้ลูกสาว โดยพึ่งกระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา
ตรงข้ามกับคุณแม่แตงโม ที่โดนทัวร์ลงอย่างดุเดือด คว่ำแชมป์เก่าอย่าง “กระติก” ไปแบบทิ้งห่าง ไม่เห็นฝุ่น เพราะคุณแม่แสดงออกโจ่งแจ้ง ตั้งท่าเจรจาขอเงินเยียวยา เพื่อให้ผู้ต้องหาเอาไปใช้เป็นเหตุผลผ่อนปรนทางคดี
มีการขุดข่าวเก่ารัวๆ สมัยคุณพ่อของแตงโม คือนายโสภณ พัชรวีระพงษ์ ยังมีชีวิต ก็เคยให้สัมภาษณ์ อันสะท้อนตัวตนอดีตภรรยาดาราคนนี้ว่า ตอนที่หย่าขาดกัน เขายอมเสียรถ เสียบ้าน ทุกๆ อย่าง เพื่อให้ได้ลูกสาวคนนี้มา และอยู่กันแบบ “พ่อเลี้ยงเดี่ยว” มาตลอด