นศ.เทคนิคนนทบุรี ถูกมือปืนดักยิงเข้าศีรษะ นอนเสียชีวิตบริเวณวัดไทรใหญ่ กลางดึก หลังกลับจากงานปาร์ตี้เพื่อนในกลุ่ม พยานเผยเห็นคนร้ายขับ จยย.ตามประกบ ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ เรียกเพื่อนในงานเลี้ยง 7 คน เค้นสอบ
วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 02.30 น. พ.ต.อ.สมชาย ขำสัจจา ผกก.สภ.ไทรน้อย ได้รับแจ้งเหตุพบศพนักศึกษาช่างเทคนิคนนท์ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ใกล้เคียงบริเวณวัดไทรใหญ่ ถ.ไทรน้อยต้นเชือก ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย พร้อมด้วย พ.ต.ต.ธนวัฒน์ ชีวิตโสภณ สวป.สภ.ไทรน้อย แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรีบรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพ นายภานุเดช ลานทอง อายุ 18 ปี เรียนอยู่ ปวช.2 เทคนิคนนทบุรี สภาพศพนอนหงายอยู่บริเวณริมถนน สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ ถูกยิงบริเวณศีรษะด้านขวา จำนวน 1 นัด ข้างศพใกล้ๆ กัน พบหมวกกันน็อก 1 ใบ อยู่ข้างบริเวณศีรษะผู้เสียชีวิต ถัดมาประมาณ 1 เมตร พบรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง 1 กง 156 นนทบุรี ของผู้เสียชีวิต แต่ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ
จากการสอบถามทราบว่า นายเอกพล อรุณรัตน์ (หรือ เปา) อายุ 17 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ตนไปนั่งกินหมูกระทะบ้านเพื่อนมา มีทั้งหมดประมาณ 7 คน ตนกำลังขับรถมากับเพื่อนที่เสียชีวิต ขับห่างกันประมาณ 20 เมตร สังเกตเห็นรถผู้ก่อเหตุขับมา 2 คน ขี่รถ จยย.มา และวนรถกลับมา ซึ่งก่อนหน้านี้ ขับสวนกันตรงแยกคลองเจ้า พอขับมาใกล้ที่เกิดเหตุ ตนมองไปที่กระจกหลัง เห็นว่ามีรถ จยย.ขี่ประกบเพื่อนตนอยู่ แต่ก็ขับมาเรื่อยๆ ได้ยินเสียงดังปั๊ง ตนคิดว่าเป็นเสียงประทัด แต่ว่าไม่ใช่ เป็นเสียงปืน ตนตกใจมาก จึงขับหนีและวนหนีอยู่หน้าเซเว่นสักพัก
พ.ต.อ.สมชาย กล่าวว่า ได้รับแจ้งทางวิทยุศูนย์นนท์ ว่า มีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบน้องที่เป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต หรือ เปา ขับรถ จยย.มาพร้อมกัน แต่มาคนละคัน ทราบว่า เขากำลังขับรถ จยย.กลับกัน มาจากบ้านเพื่อนที่วัดมะสงฆ์ ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เวลาประมาณ 01.30 น. ได้ขับรถสวนกับคนร้ายบริเวณสี่แยกคลองเจ้า และคนร้ายได้ขับตามกลับมา แต่พยานที่มาด้วยกัน หรือ เปา ได้ขับนำหน้ามาก่อน ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นกลุ่มไหน กำลังสืบหาคนร้ายอยู่ว่าเป็นกลุ่มไหน
เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษาอยู่ที่เทคนิคนนทบุรี ตอนนี้อยากให้คนร้ายเข้ามามอบตัว เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีถึงที่สุด ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่า สาเหตุการก่อเหตุเพราะอะไร อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ คาดว่า อาจจะเป็นคู่อริกันมาก่อน โดยจะเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา พ.ต.ต.สมชาย กล่าวว่า วันนี้เรียกเพื่อนผู้เสียชีวิตที่อยู่กับผู้ตายก่อนที่จะเกิดเหตุ ทั้งหมด 7 คน แต่เข้าให้ปากคำ 6 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบปากคำเพิ่มเติมทีละคน ส่วนเพื่อนที่ขี่รถ จยย.นำหน้าผู้เสียชีวิต จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมเป็นพิเศษ เพราะเป็นคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์มากที่สุด ส่วนเรื่องของอาจารย์ที่เข้ามาให้ปากคำในวันนี้ จะเป็นส่วนของเรื่องสิ่งแวดล้อมต่างๆ และเรื่องสถาบัน ตอนนี้จะมีแนวทางในการติดตามคนร้ายในคดีนี้ กำลังเร่งสอบพยานอยู่ เพื่อจะสืบทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นจากอะไร เพื่อนทั้งหมด 7 คน มีการนั่งสังสรรค์กับผู้ตายมาก่อน และพึ่งจะแยกย้าย จากการสอบปากคำเบื้องต้นยังไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จึงกำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่กล้องวงจรปิดของเส้นทางที่คนร้ายหนี จะนำมาประมวลวิเคราะห์เพื่อปรึกษาว่าในคดีนี้จะไปในทิศทางไหน ส่วนเพื่อนที่ขี่รถ จยย.นำหน้าผู้ตายมาให้ปากคำว่า คนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย.สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สวมเสื้อคลุม และใส่กางเกงยีนส์ คาดว่า อายุประมาณ 20 ปี แต่ไม่ทราบว่าคนร้ายขี่รถ จยย.ยี่ห้ออะไร และไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เห็นเพียงแค่รูปร่างเบื้องต้น คาดว่า สาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัว
ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมกำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงตรวจสอบ ถ้าให้ตนวิเคราะห์ อาจจะมีส่วนน้อยของเรื่องสถาบัน เพราะตรงที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เปลี่ยว ถ้าเป็นการแก้แค้นจะก่อเหตุช่วงหัวค่ำหรือช่วงบ่ายมากกว่า แต่จะเป็นเหตุบังเอิญที่มาเจอกันก็ต้องตรวจสอบอีกที ซึ่งเป็นไปได้ที่คนร้ายจะติดตามผู้เสียชีวิตมาก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้จะหาความคืบหน้าให้เร็วที่สุด จะมีการเช็กในโซเชียลว่ามีการโพสตฺด่าโพสต์ท้ากันมาก่อนไหม ตอนนี้กำลังไล่กล้องวงจรปิดอย่างละเอียด ส่วนทางผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตจะเรียกเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งตนยังไม่ทราบรายละเอียด