“ฟ้าใส ปวีณสุดา” แจ้งความจับแอดมินเพจไลฟ์สดบูลลี่ทำเสื่อมเสีย

“ฟ้าใส ปวีณสุดา” เอ็มยูที 2019 เข้าแจ้งความตำรวจ สน.คันนายาว ให้ดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทฯ กับกลุ่มคนที่เป็นเจ้าของเพจ “T-Pageant” หลังไลฟ์สดบูลลี่ทำให้เสื่อมเสีย

วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ สน.คันนายาว น.ส.ปวีณสุดา ดรูอิ้น หรือ ฟ้าใส มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 เดินทางมาพร้อม นายอนุสิทธิ์ ถึงสุข หรือ เอส ผู้จัดการส่วนตัว นายศุภวิชย์ กัณสุข และ นางนงลักษณ์ แตงเจริญ ทนายความเข้าพบ พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว และ พ.ต.ท.วีระ งามเลิศ รอง ผกก.สอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณากับกลุ่มคนที่เป็นเจ้าของเพจ หรือแอดมินเพจ “T-Pageant” ที่ได้ทำการไลฟ์สดกล่าวถึงฟ้าใสในบริบทที่ไม่สุจริต โดยออกอากาศเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา

นางนงลักษณ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะกำลังเดินทางอยู่แถวนี้ ได้มีคนส่งมาให้ดู ซึ่งในคลิปวิดีโอดังกล่าวได้มีการพูดถึงฟ้าใสในบริบทที่ไม่ใช่การติชมด้วยสุจริตใจ ถ้าหากใครได้ดูจะมองว่าฟ้าใสเป็นนางงามที่ปล่อยตัวให้อ้วน ไม่มีวินัย รวมทั้งในคลิปก็กล่าวในทำนองที่ทำให้ฟ้าใสเสียหาย โดยก่อนหน้านี้ ได้เคยไปร้องทุกข์ที่ ปอท.มาแล้ว ก็พบว่าเป็นบัญชีอวตาร จากนั้น พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. ก็ได้ให้ไปมอบคดีที่กองบัญชาการสอบสวนกลางต่อ

ทั้งนี้ ก็จะให้กฎหมายดำเนินการต่อไป ซึ่งขณะนี้ก็มีข้อหาเดียว คือ การหมิ่นประมาณโดยการโฆษณา เพราะมีการเอามาพูดถึงในลักษณะที่ไม่ดี จนฟ้าใสได้รับความเสียหายทั้งในเรื่องความรู้สึกและผลงาน

ด้าน น.ส.ปวีณสุดา กล่าว่า ตนโดนมาเยอะมาก กว่าจะรักษาตัวเองขึ้นมาได้ กลับมารับงานปกติได้นั้น ก็ใช้เวลานานพอสมควร แล้วพอปีนี้ได้โอกาสจากงานแสดงและพิธีกรต่างๆ จากที่ตนคิดว่าก้าวข้ามได้แล้ว พอปัจจุบันมาเจอแบบนี้ ก็เหมือนมาฉุดดึงตนกลับไปอีก การที่ตนปล่อยผ่านในคราวก่อนก็เพราะถือว่าตัวเองเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการวิจารณ์ แต่ตนมองว่าในครั้งนี้นั้นเป็นการติเชิงเหยียด ด้อยค่า ทำให้อับอายเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งในคลิปปรากฏคำพูดที่ทำให้ตนเสื่อมเสีย เช่น “ยิ่งรู้จักมากยิ่ง....” ทำให้ตนรู้สึกว่าคนที่พูด รู้จักตนจริงๆ ไหม ซึ่งอะไรแบบนี้ทำให้คนอื่นๆ อาจสรุปไปตามที่คนในคลิปวิดีโอพูด ซึ่งการที่ตนมาแจ้งความดำเนินคดีในวันนี้ก็เพราะอยากให้กรณีของตนเป็นกรณีตัวอย่างสำหรับคนอื่นๆ ไม่ให้ไปกระทำในลักษณะนี้กับคนอื่นๆ อีก

ขณะที่ นายอนุสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การไลฟ์ขอโทษที่ผ่านมา เป็นการขอโทษที่ดูไม่เต็มใจ เพราะเป็นกลุ่มคนที่คอยโจมตีฟ้าใสตลอด ซึ่งถ้าหากดูจากภาษากายของผู้กระทำ ก็เป็นการขอโทษที่ไม่สำนึกผิด ตนจึงต้องพาฟ้าใสมาแจ้งความ และขอคุยผ่านกระบวนการทางกฎหมายเท่านั้น อยากให้มาคุยกันว่าสาเหตุที่ทำมาจากอะไร ทำเพื่ออะไร เพราะทุกการกระทำมันทำให้ฟ้าใสเสื่อมเสียชื่อเสียง และเงินมันทดแทนความรู้สึกไม่ได้ ถ้าเขารู้สึกผิดจริงๆก็ควรขอโทษด้วยความจริงใจ