สุดช็อก! “มิสยูเอสเอ” กระโดดตึกเสียชีวิตกลางนิวยอร์ก

กลายเป็นข่าวช็อกกันเลยทีเดียวเมื่อมีรายงานยืนยันว่าอดีตมิสยูเอสเอ 2019 “เชสลี คริสต์” กระโดดจากตึกสูงย่านมิดทาวน์ลงมาเสียชีวิต

ตามรายงานระบุว่า เชสลี คริสต์ วัย 30 ปี ผู้ครองตำแหน่งมิสยูเอสเอปี 2019 ได้กระโดดจากตึกความสูง 60 ชั้นลงมาเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 7.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ โดยทางครอบครัวก็ได้ยืนยันข่าวการเสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เป็นความสะเทือนใจและเสียใจอย่างที่สุด ที่เราต้องประกาศข่าวการเสียชีวิตของ เชสลี คริสต์ ผู้เป็นที่รักของพวกเรา แสงสว่างในตัวเธอ ทั้งความงามและความแข็งแกร่งเคยเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับคนทั่วโลก เธอห่วงใยคนอื่น, รัก , หัวเราะ และยังส่องประกายในตนเอง เชสลีมีแต่ความรักและการรับใช้ผู้อื่น ไม่ว่าจะผ่านงานที่เธอทำทั้งในฐานะทนายความที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในสังคม, ในฐานะมิสยูเอสเอ ,ในฐานะพิธีกรในรายการ EXTRA และที่สำคัญที่สุดในฐานะที่สำคัญอย่าง ลูกสาว, พี่สาว, เพื่อน, ผู้ให้คำแนะนำ และเพื่อนร่วมงาน เรารู้ว่าสิ่งที่เธอสร้างไว้จะยังคงอยู่ตลอดไป” ครอบครัวของเธอได้แถลงถึงการเสียชีวิตของนางงามผู้ล่วงลับ

ตามรายงานจากแหล่งข่าวระบุว่า เชสลี พักอาศัยอยู่บนชั้นที่ 9 ของตึกดังกล่าว และตอนที่เธอกระโดดลงมาเธออยู่ที่นั่นเพียงลำพัง โดยพบครั้งสุดท้ายขณะยืนอยู่บนระเบียงชั้นที่ 29 ของตึก

เชสลี เป็นตัวแทนสาวงามจากนอร์ธ แคโรไลนา ก่อนจะคว้าตำแหน่งมิสยูเอสเอ ปี 2019 ไปครอง และขณะที่เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สเธอใส่ชุดประจำชาติเป็นเทพีเสรีภาพผสมเทพีแห่งความยุติธรรม ในชุดสีทองพร้อมกับติดปีกสีขาวด้านหลัง อันเป็นภาพจำของคนสหรัฐฯ นอกจากนั้นเธอยังทำงานเป็นนักข่าวของ EXTRA TV ด้วย และเธอยังเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาสำหรับชาวไทยเพราะเธอยังทำหน้าที่เป็นพิธีกรในการถ่ายทอดสดประกวดมิสยูนิเวิร์สปีล่าสุดด้วย

“เราใจสลาย เชสลี ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของรายการ แต่เธอยังเป็นที่รักของครอบครัวชาว EXTRA ของเราและเป็นที่รักของทีมงาน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังเพื่อนๆและครอบครัวของเชสลีด้วย” ทางสถานี EXTRA TV ได้แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของ เชสลี คริสต์

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นการฆ่าตัวตาย โดยพบว่าไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เธอจะตัดสินใจจบชีวิต เธอได้โพสต์รูปตนเองในอินสตาแกรมพร้อมแคปชันว่า “ขอให้วันนี้เป็นวันที่คุณได้พักอย่างสงบ”

ก่อนหน้านี้ในเดือน ต.ค. 2019 เธอยังได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ค ในวันสุภาพจิตแห่งโลก พร้อมเสนอวิธีการคลายความเครียด โดยระบุว่า

“ฉันทำหลายสิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าฉันยังคงรักษาสภาพจิตใจฉันได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือฉันต้องคุยกับที่ปรึกษา เธอเป็นคนที่คุยด้วยง่ายมาก เธอให้กลยุทธ์ที่เยี่ยมมาก โดยเฉพาะเวลาที่ฉันเศร้า, มีความสุข หรือเป็นเดือนที่ยุ่งวุ่นวายมากๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ฉันไม่ได้คุยกับที่ปรึกษา ฉันจะใช้เวลาจบวันด้วยการลดความเครียดทั้งถอดปลั๊ก ปิดโทรศัพท์ ไม่ตอบข้อความ แค่นั่งเฉยๆและดูหนังที่ฉันชอบ”

และในปี 2020 เธอได้พูดถึงการรักษาสภาพจิตใจอีกครั้ง โดยระบุว่า “มันมี 3 สิ่งที่ฉันทำในการดูแลตนเอง อย่างแรก ฉันพยายามเซ็ตตาราง เพราะฉะนั้นฉันจะตั้งปลุกไว้ที่ 6:45 น. ซึ่งฉันรู้แล้วว่าฉันต้องตื่นและเริ่มต้นชีวิตในแต่ละวัน อันดับ 2 คือ ฉันพยายามตั้งขอบเขตเอาไว้ คือแม้ว่าฉันจะอยู่บ้านและฉันมีคอมพิวเตอร์ มีโทรศัพท์ แต่ฉันจะหยุดการตอบอีเมลในเวลา 6 โมงเย็น และไม่ตอบข้อความใดๆหลังจากนั้น อันดับ 3 ฉันมีตารางออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันเพื่อที่จะทำให้สุขภาพร่างกายและจิตใจฉันแข็งแรง”

อย่างไรก็ตามแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ไม่ได้เปิดเผยสาเหตุโดยละเอียดว่าเหตุใดเธอถึงตัดสินใจจบชีวิตในครั้งนี้ โดยเธอได้ทิ้งโน้ตไว้พร้อมระบุว่าเธอขอยกทุกอย่างที่เป็นของเธอให้กับแม่

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทิ้งท้ายว่า “เธอไม่เพียงแค่สวยแต่ยังฉลาดด้วย เธอเป็นทนายความ เธอมีชีวิตที่ใครๆต่างพากันอิจฉา มันน่าเศร้ามาก”