MGR Online - ปคบ.ตามจับสาววัย 30 สวมรอยใช้ใบประกอบวิชาชีพแพทย์หญิง สมัครงานคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง ทำความผิดซ้ำขณะได้ประกันตัวใน 4 คดีก่อนหน้านี้ อ้างต้องการเงินมาใช้จ่ายประจำวัน ทำอย่างอื่นไม่เป็น
วันนี้ (13 ก.พ.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. แถลงผลจับกุม น.ส.ณัฐชานันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 77/2565 ลง วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 กรณีสวมรอยเป็นหมอรับจ้างทํางานในคลินิก โดยกล่าวหาว่า “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ใช้คําหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีประกอบวิชาชีพเวชกรรม, ฉ้อโกง โดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน และเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายผู้อื่นหรือประชาชน”
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.ณัฐชานันท์ มีพฤติกรรมหลอกลวง โดยหลอกเอาเอกสารใบประกอบวิชาชีพแพทย์นํามาสวมรอยเป็นแพทย์ เข้าทำงานในคลินิกจํานวนหลายแห่ง จนกระทั่งถูกตํารวจ กก.4 บก.ปคบ. จับกุมดําเนินคดีตามกฎหมาย แต่ภายหลังผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว ตำรวจยังได้รับการร้องเรียนจากแพทย์หญิงเอ (นามสมมติ) อีกว่า ได้ถูก น.ส.ณัฐชานันท์ นําใบประกอบวิชาชีพและเอกสารสําคัญไปแอบอ้าง เข้าทํางานคลินิกย่านบางบอน กรุงเทพฯ จํานวน 1 แห่ง และคลินิกในจังหวัดปทุมธานี จํานวน 2 แห่ง ทําให้ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงดําเนินการเพิกถอนการประกันตัวและออกหมายจับ น.ส.ณัฐชานันท์ กระทั่งเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 65 ติดตามจับกุม น.ส.ณัฐชานันท์ ได้บริเวณถนนประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ นําส่งพนักงานสอบสวนดําเนินคดี
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพได้กระทําความผิดจริง โดยได้นําสําเนาใบประกอบวิชาชีพของแพทย์หญิงจํานวนหลายท่านที่ได้จากการโพสต์กระทู้ในเว็บไซต์ต่างๆ อ้างว่า จะเปิดสถานเสริมความงาม ต้องการรับสมัครแพทย์มาทํางาน พร้อมให้ส่งเอกสารมาให้ทางไลน์ จากนั้นก็นําเอกสารดังกล่าวมาใช้เพื่อสมัครทํางานในสถานเสริมความงามในกรุงเทพฯ
เมื่อสอบถามถึงสาเหตุที่กระทําความผิดในลักษณะเดิมอีก น.ส.ณัฐชานันท์ อ้างว่า ตนมีความต้องการเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจําวัน และตนทําอย่างอื่นไม่เป็น จึงต้องหวนกลับมากระทําความผิดในลักษณะเช่นเดิมอีก ตรวจสอบพบว่า มีคดีซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวน ไปจนถึงส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ และรอการพิจารณาคดีในชั้นศาล อีก 4 คดี และในระหว่างที่ผู้ต้องหาประกันตัวไป ได้นําใบประกอบวิชาชีพของแพทย์หญิงเอ (นามสมมติ) สวมรอยเป็นแพทย์ทํางานในคลินิกจํานวนทั้งหมด 3 แห่งนั้น
เบื้องต้นเป็นความผิดฐาน “เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นใน ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น” โดยพนักงานสอบสวนจะเรียกคลินิกดังกล่าวมาสอบสวนปากคําและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นําตัว น.ส.ณัฐชานันท์ ไปฝากขังต่อศาลอาญาธนบุรี
