xs
xsm
sm
md
lg

ศปปส.จี้เอาผิดเฟซบุ๊ก “ทนายโจร เสรีไทสภาไฟเย็น” หมิ่นเบื้องสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - แกนนำ ศปปส. แจ้งความ ปอท. ดำเนินคดีเจ้าของบัญชี “ทนายโจร เสรีไทสภาไฟเย็น” ตาม ม.112 พบข้อความหมิ่นสถาบัน เชื่อตามตัวได้ไม่ยาก

วันนี้ (9 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ฐานันดร สาสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. โดยนำหลักฐานเป็นบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “ทนายโจร เสรีไทสภาไฟเย็น” ที่แชร์ลิงก์ยูทูบเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง

นายอานนท์ กล่าวว่า ตนตรวจสอบพบเห็นผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “ทนายโจร เสรีไทสภาไฟเย็น” เข้าไปแสดงความเห็นในเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ทะลุวัง-Thaluwang” โดยมีการแชร์ลิงก์ยูทูบของ “ขุนทองไฟเย็น+คุณไทยประดิษฐ์ ความชั่วช้าของ……..ที่ขัดขวางประชาธิปไตย 3 กพ” ที่มีข้อความในลักษณะเข้าข่ายหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงรวบรวมหลักฐานนำมามอบให้พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ตรวจสอบเพื่อเอาผิดดำเนินคดี ม.112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี

นายอานนท์ กล่าวต่อว่า พวกเราเคยเตือนสติคนที่เห็นต่างมาตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีมาแล้ว ว่า การโพสต์หรือคอมเมนต์ใดๆ อย่าให้มีลักษณะหมิ่นเหม่ อาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ การโพสต์การแชร์ต้องมีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจในการโพสต์ การที่มีความเห็นต่างเป็นเรื่องการเมืองตนไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว จะโพสต์จะด่ารัฐบาลก็ว่ากันไป แต่แบบนี้มันเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ที่เราเคารพนับถือ เราไม่อาจจะนิ่งเฉยดูดายกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะในโซเชียลฯ หรือตามพื้นที่ต่างๆ บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ ทนายโจรฯ นี้ อ้างว่า อยู่ต่างประเทศ แต่ตรวจสอบแล้วเชื่อว่าอยู่ในเมืองไทยแน่นอน เชื่อว่า ไม่เกินความสามารถของตำรวจ บก.ปอท. น่าจะจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้ เหมือนรายที่ตัดต่อภาพเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต

นายอานนท์ ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวให้สมาชิกทราบว่า ต่อจากนี้ทาง ศปปส. กับ ศชอ. จะแบ่งกันทำงาน โดย ศปปส.จะทำงานเกี่ยวกับคดีมาตรา 112 ทั้งหมด ส่วน ศชอ. จะทำงานเกี่ยวกับการบลูลี่ในโซเชียล แต่ก็จะร่วมกันดำเนินการเก็บข้อมูล เครือข่ายต่างๆ จะยังคงประสานกันอยู่เหมือนเดิม

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้แจ้งและจะรวบรวมพยานหลักฐานเสนอผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น