ผบช.ภ.1 แถลงการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาอีก 3 ราย เครือข่าย“สายเบิร์นเต็มระบบ” พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 3.5 ล้านเม็ด ไอซ์ 73 กก. สารภาพได้ค่าจ้างรวม 5 หมื่นบาท
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ ที่กองบัญชาการตำรวจตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ปส.) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ได้แก่ นายธรรมรัตน์ จิตรสนอง นายศิริกรณ์ ต้องเชื้อ และ น.ส.รชาดา จิตรสนอง พร้อมของกลางยาบ้า 3,592,000 เม็ด ไอซ์ 73 กก. รวมมูลค่ากว่า 170,000,000 บาท และรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่น แจ๊ซ หมายเลขทะเบียน กบ 2683 ลพบุรี โดยสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.30 น. บริเวณซอยข้างโรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค หมู่ 1 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่า วันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.30 น. จะมีผู้ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงราย นำยาเสพติดมาส่งให้กับผู้รับยาเสพติดเพื่อนำไปจำหน่ายในพื้นที่ภาคกลาง ที่บริเวณซอยข้างโรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค หมู่ 1 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี โดยผู้รับยาจะใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่น แจ๊ซ เป็นยานพาหนะ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ และพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่น แจ๊ซ หมายเลขทะเบียน กบ 2683 ลพบุรี กำลังขับออกจากซอยมุ่งหน้า ถนนพหลโยธินด้วยความเร็ว จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ แต่ผู้ขับขี่พยายามขับหลบหนีและพุ่งชนกับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับความเสียหายจำนวน 2 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าแสดงตนตรวจค้น พบว่า รถยนต์คันดังกล่าวมี นายธรรมรัตน์ จิตรสนอง เป็นผู้ขับขี่ มี นายศิริกรณ์ ต้องเชื้อ และ น.ส.รชาดา จิตรสนอง เป็นผู้โดยสาร และพบยาบ้า ประมาณ 3,592,000 เม็ด และไอซ์ หนักประมาณ 73 กิโลกรัม ซึ่งบรรจุไว้ในกระสอบจำนวน 21 กระสอบ อยู่ภายในห้องโดยสารของรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย เพื่อก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หน้าพระลานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เครือข่ายดังกล่าว เป็นเครือข่าย “สายเบิร์นเต็มระบบ” ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ถูกจับกุมพร้อมยาบ้าประมาณ 530,000 เม็ด ที่ จ.ลพบุรี เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยยาเสพติดที่สามารถยึดได้นั้น มีฉลาก 999 ในส่วนของผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลำเลียงยาเสพติดจริง โดยได้ค่าจ้าง รวม 3 คน เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท จากนี้จะทำการสืบสวนขยายผลถึงบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดที่เกี่ยวข้องต่อไป