หญิงชราอาชีพเก็บของเก่าขาย อาศัยเพิงพักริมทางเดินริมคลองระบายน้ำเสียเขตธนบุรี พลัดตกคลอง หัวทิ่มจมโคลนเสียชีวิต ขณะพยายามเกาะราวไม้ไผ่ไปเอาเสื้อผ้า
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 29 ม.ค. ร.ต.อ.พิทักษ์ จันทร์ศรี รอง สว.(สอบสวน) สน.บางกอกใหญ่ รับแจ้งเหตุหญิงชราพลัดตกคลอง แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นเพิงพักคนไร้บ้าน และบุคคลซึ่งยึดอาชีพเก็บของเก่าขาย ปลูกติดกันบนสันเขื่อนริมคลองระบายน้ำ จำนวน 5-6 หลัง จากการตรวจสอบภายในคลองซึ่งมีขนาดความกว้างราว 6 เมตร ลึกประมาณ 5 เมตร พบว่าเป็นช่วงที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากำลังลง พบศพ สภาพร่างกายเปลือยเปล่า ไม่สวมเสื้อผ้า หน้าทิ่มจมลงไปที่ก้นเขื่อนซึ่งมีแต่โคลนตมจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต หน่วยกู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างขึ้นมาตรวจสอบไม่พบบาดแผล ก่อนมอบให้แพทย์นิติเวชนำไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวน นายเฉลย แซ่แต้ อายุ 76 ปี สามีผู้ตายให้ปากคำด้วยอาการโศกเศร้า ว่า ตนเคยมีครอบครัวมาแล้ว แต่ภรรยาเก่าเสียชีวิต จนมาพบ นางสมจิตร ผู้ตายและยึดอาชีพเก็บของเก่าขาย ใช้ชีวิตร่วมกันที่เพิงหลังนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาลูกสาวตนที่เกิดกับภรรยาเก่า เห็นว่าเพิงพักแห่งนี้ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ เวลาจะอาบน้ำ ซักผ้า ต้องตักเอาจากคลองตอนน้ำขึ้นแล้วรอตกตะกอนก่อนถึงจะนำมาใช้ ลูกสาวจึงได้เคยออกปากมาชวนตนไปอยู่ด้วยแต่ตนเลือกที่จะไม่ไป เพราะเป็นห่วงผู้ตายที่ระยะหลังป่วยด้วยอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
กระทั่งเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนออกไปหาเก็บขวดและของเก่ามาเก็บไว้ขาย ปล่อยให้ผู้ตายอยู่ที่เพิงพักเพียงลำพังเมื่อกลับมาถึงก็หาอยู่นานว่าผู้ตายไปไหน พยายามเพ่งมองหาท่ามกลางความมืดอยู่นานจนพบร่างลางๆ จมโคลนอยู่ก้นเขื่อน จึงรีบไปตามคนมาให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนสาเหตุเชื่อว่าผู้ตายพยายามเกาะราวไม้ไผ่ ไปเอาเสื้อและผ้าถุง ที่ตากเอาไว้มาใส่ แต่เกิดพลาดหัวทิ่มตกลงไปในขี้ตมก้นเขื่อน แล้วไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทำให้ขาดใจตายในที่สุด นายเฉลย กล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้มอบร่างนางสมจิตร ให้แพทย์นิติเวชดำเนินการผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนเรื่องการบำเพ็ญกุศลศพ ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู อาสาเป็นธุระและช่วยรับดำเนินการ ซึ่ง นายเฉลย จะเป็นผู้ตัดสินใจอีกครั้ง ว่าสะดวกนำร่างภรรยาไปทำการฌาปนกิจ ที่วัดใด