MGR Online - รมว.ยุติธรรม มอบนโยบาย “ดีเอสไอ” ชี้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ แก้กฎหมายให้ทันสมัย เร่งทำงานครบ 6 เดือนต้องแสดงผลงานให้สังคมทราบ
วันนี้ (25 ม.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เปิดเผยว่า ตนได้เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและติดตามการดำเนินงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยมี ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม , น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม , นายคุณดร งามธุระ คณะที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม , นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ผู้อำนวยการกองคดี ในสังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าร่วมการประชุม
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดยได้มีการรายงานถึงภารกิจที่สำคัญของแต่ละกองให้ได้รับทราบ ภาพรวมการดำเนินงานของดีเอสไอในปี 2564 ให้การช่วยเหลือประชาชนรวม 11,581 ราย รักษาผลประโยชน์ให้กับภาครัฐ เอกชนและประชาชน แบ่งเป็นด้านเศรษฐกิจ 12,739 ล้านบาท ด้านทรัพย์สินทางปัญญา 157 ล้านบาท ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม 2,149 ล้านบาท ด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ 676 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีเอสไอทุกท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานร่วมกับตนมาเกือบ 3 ปี และเป็นหน่วยงานที่เป็นหน้าเป็นตาของกระทรวงยุติธรรม มีหลายเรื่องที่ทำได้สำเร็จให้กับสังคม และยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องทำซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น คดียาเสพติด คดีรถหรู แชร์ลูกโซ่ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาอุปสรรค เพราะการแก้ปัญหาไม่ได้แก้ตั้งแต่ต้นเหตุ หลายครั้งเราปล่อยให้เกิดขึ้นก็ต้องแก้อีก แต่หากเราสามารถแก้ตั้งแต่ต้นเหตุอาจจะตัดขั้นตอนได้ หรือทำรูปแบบดำเนินการ เช่น คดีแชร์ลูกโซ่ เราเหนื่อยมากเวลาคนมาร้องเรียน เราเจอมาหลายครั้งมีแชร์วงใหม่ๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราแก้บ่อยๆ ก็จะเบื่อ
นายสมศักดิ์ เผยว่า ดังนั้น เราจะตัดต้นตอได้หรือไม่ เช่น การออกกฎหมายใหม่ การแก้กฎหมายเพื่อสกัดกั้น ทำให้งานของเราไม่เยอะ หากเราแก้ต้นเหตุได้ก็จะหยุดได้ อย่างที่ตนทำประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ การยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด และการสร้างนิคมอุตสาหกรรม ดังนั้นการทำงานต้องทำให้ถึงต้นตอ เราจะทำงานได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ต้องศึกษาและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
"ผมขอให้พวกเขาได้แสดงความสามารถ ความตั้งใจ ความทุ่มเทออกมาอย่างเต็มที่ที่สุดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนและทุกกองต้องทำประเมิน KPI หรือดัชณีชี้วัดผลงาน รวมทั้งต้องมีการแถลงผลงานให้ประชาชนได้ทราบในทุก 6 เดือน และขอให้เข้าใจงานของตนเอง รวมทั้งงานของเพื่อนๆ เข้าใจงานหลายๆ กอง ขับเคลื่อนและพัฒนา เข้าใจและเข้าถึง เพื่อให้เราเดินไปข้างหน้าให้ได้ ทุกกรมทุกกองมีความสำคัญทั้งนั้น หากใครมีไอเดียที่ดีก็เสนอแสดงออกมา ช่วยกันทำให้องค์กรเราขับเคลื่อนไปได้" นายสมศักดิ์ กล่าว