xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งลัก จยย.ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ก่อเหตุโชกโชนไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ผบช.ภ.1 แถลงผลงานตำรวจสมุทรปราการจับกุมแก๊งขับเก๋งตระเวนลักรถจักรยานยนต์ ส่งขายเขมร ก่อเหตุตั้งแต่ ก.พ. 64 จนถึงปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง

วันนี้ (24 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลปฏิบัติราชการรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายปราโมทย์ หรือ โมทย์ อุบลแย้ม อายุ 40 ปี นายสุรศักดิ๋ หรือ เจี๊ยบ เพ็ชรรัตน์ อายุ 41 ปี และนางสุคนธ์ หรือ อ้อย กุดหินนอก อายุ 57 ปี พร้อมด้วยของกลาง จักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ-เทา ทะเบียน 4 ขฆ 5585 กทม. จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น โซลูน่า สี น้ำตาล ทะเบียน กบ 4358 นครปฐม แผ่นป้ายทะเบียนรถ จยย.6 ป้ายและอื่นๆ รวม 11 รายการ

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำหมายค้นศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ไปทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 164/51 หมู่บ้านศรีเทพไทย ม.2 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และได้ทำการจับกุมตัว นายปราโมทย์ อุบลแย้ม และนายสุรศักดิ์ เพ็ชรรัตน์ พร้อมตรวจยึดของกลางดังกล่าว โดย นายปราโมทย์ และนายสุรศักดิ์ ให้ยอมรับว่า ได้ร่วมกันวางแผนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า โซลูน่า สีน้ำตาล หรือ รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซิตี้ สีบรอนซ์ทอง โดยทุกครั้งที่ก่อเหตุจะติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม โดยนายปราโมทย์ และนายสุรศักดิ์ จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นคนขับรถเก๋ง หากนายปราโมทย์ เป็นผู้ขับรถเก๋ง นายสุรศักดิ์ฯ จะเป็นผู้ลงมือไปลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ และหากนายสุรศักดิ์ เป็นผู้ขับรถเก๋ง นายปราโมทย์ฯ จะเป็นผู้ลงมือไปลักทรัพย์รถจักรยานยนต์

หลังก่อเหตุจะร่วมกันหลบหนีนำรถจักรยานยนต์มาซุกซ่อนไว้ที่บริเวณที่พักเลขที่ 164/51 หมู่บ้านศรีเทพไทย ม.2 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และหลังจากที่ได้รถจักรยานยนต์มาแล้วนายปราโมทย์ จะส่งภาพถ่ายรูปรถจักรยานยนต์ที่ลักมา ให้กับ นางสุคนธ์ หรือ เจ้ หรือ อ้อย กุดหินนอก (ทราบชื่อสกุลจริงภายหลัง) ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ส่งให้นายทุนชาวกัมพูชาเป็นผู้ตีราคา หลังจากนั้น นางสุคนธ์ จะแจ้งกลับมาว่ารถคันที่ลักมารับซื้อราคาเท่าไหร่ และเมื่อทำการตกลงราคาซื้อขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายปราโมทย์ และนางสุคนธ์ จะนัดหมายส่งมอบรถจักรยานยนต์ที่ได้ทำการลักมาที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น ปากซอยวัดบางเกลือ ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หรือบริเวณอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงตามที่ตกลงกันไว้ในแต่ละครั้ง โดย นางสุคนธ์ฯจะนั่งโดยสารรถตู้ประจำทางมาลงบริเวณที่นัดหมาย และจะนำเงินมาให้นายปราโมทย์ฯ ครั้งประมาณ 8,000-20,000 บาท โดยการจ่ายเป็นเงินสด หรือโอนเข้าบัญชี น.ส.กุ้ง (MRS.KOUNG PHETPOUANGPHANH) สัญชาติลาว ซึ่งเป็นภรรยาของนายปราโมทย์ และ น.ส.กุ้ง จะเป็นผู้โอนเงินส่วนแบ่งให้กับนายสุรศักดิ์ ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ซื้อขายกัน นางสุคนธ์ จะเป็นผู้ขับไปส่งให้กับนายทุนที่ได้สั่งซื้อไว้

ในเวลาต่อมา นางสุคนธ์ ได้ติดต่อนายปราโมทย์ ทางโทรศัพท์ ให้นำรถจักรยานยนต์ ที่ตกลงซื้อขายกันไว้ไปส่งมอบให้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ปากซอยวัดบางเกลือ ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และพบนางสุคนธ์ นั่งรออยู่บริเวณข้างร้าน เซเว่นอีเลฟเว่น จึงได้เข้าไปทำการจับกุมตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนฯ ดำเนินคดี ซึ่งจากการสอบถามนายปราโมทย์ และนายสุรศักดิ์ รับว่าได้ร่วมกันทำการลักรถจักรยานยนต์ไปขายให้กับ นางสุคนธ์ มาแล้วจำนวนหลายครั้ง

จากการตรวจค้นพบจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ-เทา ทะเบียน 4 ขฆ 5585 กทม.เมื่อสอบสวนขยายผลผู้ต้องหายขอมรับว่าพึ่งก่อเหตุลักทรัพย์มาจากพื้นที่ สภ.บางเสาธง จึงติดต่อหาข้อมูลเจ้าของรถโดยติดต่อไปยังบริษัทจำหน่ายรถจึงทราบชื่อและเบอร์โทรของผู้เสียหายที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารถ จยย.ตนเองถูกคนร้ายโจรกรรมมา จึงแจ้งให้ลงไปดูที่จอดรถถึงทราบว่ารถตัวเองถูกคนร้ายขโมยมา

นอกจากนี้ จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า นายปราโมทย์ฯ และนายสุรศักดิ์ ได้ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์ในลักษณะดังกล่าวในเขตพื้นที่ สภ.บางเสาธง ช่วงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ถึงปัจจุบันกว่า 30 ครั้ง รวมถึงได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ในอีกหลายท้องที่ ทั้งในเขต จว.สมุทรปราการ เขตนครบาล และเขตตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานข้อมูลไปยังท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อจะได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดตามกฎหมาย เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” และแจ้งให้ นายปราโมทย์ อุบลแย้ม ทราบว่ากระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

ด้านหญิงผู้เสียหาย เจ้าของรถ จยย.คันดังกล่าวเผยว่า ทำงานเป็นพนักงานขายอุปกรณ์สายไฟ เมื่อเลิกงานมาตอนดึกด้วยความเหนื่อยล้าจึงขึ้นนอน ส่วนรถก็จอดไว้ตามปกติที่เคยจอด กระทั่งมีโทรศัพท์ต้นทางบอกว่าเป็นตำรวจสามารถติดตามรถ จยย.ที่ถูกคนร้ายขโมยมาได้ ตนก็ตกใจรถ จยย.ถูกขโมยตอนไหน เพราะคืนก่อนเข้านอนก็จอดไว้ตามปกติ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้ลงไปดูตรงที่จอดรถถึงทราบว่าถูกคนร้ายขโมยไป ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยนำรถมาคืนให้เพราะเป็นเงินเก็บกว่าจะซื้อรถ จยจย.คันหนึ่งมาได้ ต่อไปจะล็อกรถให้ดีกว่านี้เพราะเพียงแค่ล้อคคออย่างเดียวคงไม่พอ




กำลังโหลดความคิดเห็น