“ข่าวลึกปมลับ”ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 ตอน ตัวชิงตัวแทน ผู้ว่าฯ กทม.ก้าวไกล ทำไมจบที่ “วิโรจน์”
การเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. ซึ่งเปรียบเป็น “สนามรบ” ประลองกำลังก่อนเข้าสู้กันในสนามการเมืองระดับชาติ ถือเป็นพื้นที่ที่แต่ละพรรคจะส่งขุนพลลงมาห้ำหั่นกัน สร้างศักดิ์ศรีบารมีในฐานะพรรคการเมืองที่ครอบครองอาณาจักรเมืองหลวง
ยุคนี้กรุงเทพฯ นับจากเลือกตั้งปี 2562 ภูมิทัศน์ทางการเมืองของกรุงเทพฯเปลี่ยนไป ไม่ได้เป็นศูนย์อำนาจการเมืองที่แย่งชิงกันเพียง 2 พรรค 2 ขั้วการเมืองเช่นในอดีต แต่เป็น 3 พรรค 2 ขั้วการเมือง ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ และอีกฝั่งคือพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล
ที่สำคัญคือพรรคเจ้าของพื้นที่เดิมอย่างพรรคประชาธิปัตย์ กลับต้อง “สูญพันธ์” ไม่ได้ ส.ส. แม้แต่คนเดียว
สำหรับ “พรรคก้าวไกล” ที่ถูกมองว่ามีฐานเสียงอยู่ใน “เขตเมือง” เป็นหลัก รวมทั้ง “เสียงคนรุ่นใหม่” ดังนั้นกรุงเทพฯจึงเป็น “ชัยภูมิ” ของพรรคก้าวไกล ที่การันตีด้วยผลการเลือกตั้งปี 2562 สมัยพรรคอนาคตใหม่
ที่ได้คะแนนนิยมรวมที่ 1 แต่ได้ ส.ส.กรุงเทพฯ 9 คน
การเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร กำลังใกล้เข้ามา พรรคก้าวไกล กับกลุ่มก้าวหน้า จะปิดฉากศึกรบในสมรภูมิการเมืองสนามท้องถิ่นที่กทม. กับการเลือกตั้งผู้ว่าญและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ตามยุทธศาสตร์ของพรรคที่วางไว้
แต่ก็เป็นโจทย์ยากของ “พรรคก้าวไกล” ในการเฟ้นหาบุคคลมาลงชิงผู้ว่าฯกทม. เพื่อมาสู้กับคู่แข่งขั้วเดียวกันเอง อย่าง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” แม้ว่าจะลงในนามอิสระ แต่ก็ไม่พ้นเงาพรรคเพื่อไทย
และสู้กับพรรคต่างขั้วอย่าง “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่ลงในนาม ประชาธิปัตย์ ที่ทั้งชัชชาติและสุชัชวีร์ต่างมี “โปร์ไฟล์โก้หรู-ภาพลักษณ์ดีเด่น” ทั้งสิ้น
การเฟ้นหาตัวแทนในพรรคก้าวไกล มองหาคนในสเปกที่เป็นคนรุ่นใหม่และเครื่องแรง โดยให้น้ำหนักไปที่คนนอก แต่ระยะหลัง กลับมาที่“คนใน” พรรคแทน จึงมีการโยนชื่อ “ไหม-ศิริกัญญา ตันสกุล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ถือว่ามือเศรษฐกิจของพรรค ตั้งแต่ยุคพรรคอนาคตใหม่
เพราะคนในพรรคอยากให้ชูชื่อ “คนใน” มากกว่า “คนนอก” และเป็น “ผู้หญิง” ที่มีผลงานในสภา ไม่สุดโต่งในเรื่องการเมือง เพื่อโยนหินถามทาง หากจะมาลงชิงผู้ว่าฯกทม. แต่สุดท้ายพรรคก้าวไกลก็ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวเสียเอง
ต่อมาช่วงปลายเดือน ธันวาคมปีที่แล้ว ได้มีการปล่อยข่าวชื่อ “ดร.ต้นสน-สันติธาร เสถียรไทย” เจ้าของสมญานาม “นักเศรษฐศาสตร์ภาคเทคโนโลยีแห่งเอเชีย” บุตรชาย “สุรเกียรติ์ เสถียรไทย” อดีตรมว.การต่างประเทศ ชิงผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรคก้าวไกล
ถือเป็นชื่อที่ฮือฮาอย่างมาก เพราะเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ที่มีโปล์ไฟล์และผลงานรับประกัน แต่ผ่านไปไม่นาน “สันติธาร” ก็ออกมาปฏิเสธข่าว เป็นแคนดิเดตชิงผู้ว่าฯกทม. ดับฝันเอฟซีพรรคก้าวไกลไป
ต่อมา พรรคก้าวไกล ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวบุคคลตัวแทนชิงผู้ว่าฯ กทม. วันที่ 23 ม.ค.2565 โดยระบุว่าอายุราว 40 ปี เป็นบุคคลที่ดิ้นรน เป็นคนธรรมดา และที่สำคัญเป็นผู้ชาย จนทำให้เริ่มมีการเล็งถึงบุคคลในพรรคกัน
โดยช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเปิดตัวพรรคก้าวไกลได้ปล่อยแคมเปญ “หมดเวลาซุกขยะไว้ใต้พรหม-พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ” ผ่านป้ายที่ติดตามแผงลอยและรถสามล้อ มาพร้อมกระแสข่าวว่า
พรรคก้าวไกลจะส่ง “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” หรือ “สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ” ที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งคู่ ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรค ซึ่ง “วิโรจน์-สุรเชษฐ์” เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน สมัยเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จนมาถึงไม่กี่วันก่อนเปิดตัว พรรคก้าวไกลได้เปิดตัวคลิปวิดีโอออกมา ซึ่งปรากฏภาพผู้ชายที่หันหลังให้กล้อง ซึ่งคล้ายกับ “วิโรจน์ ลักษณาอดิศร” และที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลก็ไม่เคยปฏิเสธชื่อดังกล่าว แม้แต่ “วิโรจน์” เอง ก็มีท่าที “แบ่งรับแบ่งสู้” ในการตอบคำถามสื่อ
ในวันเปิดตัว 23ม.ค.ก้าวไกลจัดงานชุดใหญ่ไฟกะพริบ แสงสีเสียครบถ้วนเลือกเวลาจัดงานช่วงค่ำ รวมทั้งจะมีการเปิดตัว “ทีมทำงานกรุงเทพฯ” แบบเต็มคณะ รวมทั้งว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขตด้วย
ในที่สุด หวยก็ออกมาที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
ชื่อ “วิโรจน์” ถูกนำไปเทียบชั้นมวยกับ “ชัชชาติ”และ“ดร.เอ้” ด้วย เป็นสามตัวชิงคนดังที่ต่างเป็นวิศวะกร มีอะไรเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับใครจะขายความคิดและใครจะซื้อใจคนกรุงเทพได้มากกว่า ต้องรอวันเลือกตั้ง
สำหรับวิโรจน์ ส.ส.ปากกล้า จัดอยู่ในพวกเครื่องด่าชั้นดี เปิดปุ๊บติดปั๊บ พรรคก้าวไกลเลือกมาเป็นตัวแทนท้าชิงผู้ว่าฯ กทม. คงหวังใช้สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม ชำแหละปัญหาชั่วร้ายใน กทม.เปิดสงครามน้ำลาย มากกว่าโชว์วิสัยทัศน์เพ้อฝันเป็นแน่ ไม่เชื่อก็คอยดู!?