บิดาเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.โชคชัย หลังมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างเป็นตำรวจ บุกฮอสพิเทลย่านโชคชัย 4 ลักพาตัวลูกสาวขณะพักรักษาอาการป่วยโควิด
วันนี้ (22 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ สน.โชคชัย บิดาของ น.ส.บี นามสมมติ อายุ 23 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ให้ดำเนินคดีกับโรงพยาบาลและฮอสพิเทล หลังมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน อุ้มลักพาตัวบุตรสาวไปจากฮอสพิเทลของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านโชคชัย 4 รวมถึงให้ตรวจสอบพฤติกรรมชายกลุ่มดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่
บิดา เปิดเผยว่า หนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์เคยมาตามจีบบุตรสาว แต่เพราะชายคนดังกล่าวมีพฤติกรรมรุนแรง เวลาไม่พอใจชอบล็อกคอและฉุดกระชากบุตรสาว ทำให้ตนเองบอกให้บุตรสาวเลิกคบ ต่อมาบุตรสาวติดโควิด-19 และถูกส่งเข้ารับการรักษาที่ฮอสพิเทล แต่หลังจากรับการรักษาได้เพียง 5 วัน ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ และแสดงเอกสารที่อ้างว่าเป็นหมายจับคดีลักทรัพย์เงินสดจำนวน 1 ล้านบาท ของ สน.ประเวศ แสดงให้กับพยาบาลของฮอสพิเทลดู และให้พยาบาลไปเปิดห้องบุตรสาวตอนตี 4 ทันทีที่เปิดห้อง ชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็เข้าล็อกตัว และลากบุตรสาวออกไปจากฮอสพิเทล พาไปกักขังที่คอนโดมิเนียมในซอยรามคำแหง 24 โดยบุตรสาวได้ไลน์มาขอให้ตนเองพาตำรวจไปช่วยเหลือออกจากคอนโดมิเนียมดังกล่าว หลังช่วยเหลือออกมาพบว่า บุตรสาวมีรอยฟกช้ำที่แขนจากการถูกกระชาก และทางผู้ก่อเหตุอ้างว่าทำไปเพราะชอบบุตรสาวมาก
ส่วนเอกสารที่อ้างว่าเป็นหมายจับ ตำรวจตรวจสอบแล้ว พบว่า ไม่ได้มีคดีลักทรัพย์อยู่จริง และเอกสารดังกล่าวยังเป็นเพียงหมายเรียกสอบปากคำในฐานะพยานเท่านั้น ดังนั้น จึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับโรงพยาบาลและฮอสพิเทล ที่ปล่อยให้บุตรสาวตนเอง ซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ในความดูแล ถูกลักพาตัวออกไปได้ โดยไม่มีการตรวจสอบว่าหมายจับดังกล่าวมีจริงหรือไม่ ทำให้บุตรสาวตนเองตกอยู่ในอันตราย รวมถึงขณะที่ชายฉกรรจ์พาบุตรสาวของตนเองออกจากฮอสพิเทล ทางฮอสพิเทลก็ไม่ได้จัดให้ใส่ชุด PPE เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากแจ้งความแล้ว บิดาผู้เสียหายพร้อมตำรวจ สน.โชคชัย ได้เดินทางไปยังฮอสพิเทล และคอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ เพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ทั้ง 2 แห่งปฏิเสธที่จะให้ เนื่องจากมาตรการรักษาความเป็นส่วนตัว และขอให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกไปก่อน
