จ่อเรียกผู้บริหารบริษัท รปภ.รุมตื้บพนักงานที่ลาออกให้ปากคำ

ผกก.สน.หัวหมาก เผย เตรียมเชิญผู้บริหารบริษัท รปภ.เข้าให้ปากคำกรณีพนักงานถูกรุมทำร้าย หลังยื่นใบลาออก ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก แรงงานเพื่อสังคม โพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวของ นายอนันตชัย ปิยะธีรวัฒน์​ อายุ 32 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย ที่เขียนใบลาออกจากบริษัทรักษาความปลอดภัย ย่านรามคำแหงซอย 4 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ แล้วถูกทางบริษัทนัดหมายให้มารับเงินค่าจ้างค้างจ่ายงวดสุดท้าย แต่เมื่อเข้าไปรับเงินกลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายร่างกายบาดเจ็บร่างกายฟกช้ำ เมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มกราคม นายอนันตชัย และพวกรวม 4 คน เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก หลังแจ้งความในกรณีดังกล่าว

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ สน.หัวหมาก พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว ว่า ในส่วนของคดีได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 4 คนเรียบร้อยแล้ว ส่วนของใบรับรองแพทย์จะเร่งรัดดำเนินการให้ ซึ่งใบรับรองแพทย์ต้องนำไปประกอบสำนวน พร้อมกับเตรียมเชิญ ประธานบริษัท, ร.ต.ท.เมธี ผู้จัดฝ่ายกำลังพลของบริษัท และเจ้าหน้าที่โอเปอเรเตอร์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ ตามที่ผู้เสียหายให้ปากคำไว้กับพนักงานให้ปากคำทั้งหมด รวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเช่นกัน หากการสอบปากคำ พบว่า มีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ผู้บังคับบัญชาได้ให้นโยบายดำเนินการเต็มที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน รวมทั้งจะมีการอายัดเซิร์ฟเวอร์และกล้องวงจรปิดที่บริษัทกล่าวว่าชำรุด มาให้ตำรวจ พฐ.ตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งนี้ เมื่อวานได้พบผู้เสียหายแล้ว ซึ่งจนได้ยืนยันกับผู้เสียหายว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ตำรวจจะดูแลเต็มที่

พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ยอมรับว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ปิด แม้ว่าคนทั่วไปจะเข้าไปได้ก็ตาม ต้องดูมาตรการว่ามีการคัดกรองคนเข้าออกอย่างไร แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า กรณีที่คนนอกจะเข้ามาทุบตีในพื้นที่บริษัท ไม่น่าจะเป็นไปได้ ส่วนการให้ข้อมูลทางสื่อของบริษัทที่ระบุไม่ทราบเรื่อง ว่า มีเหตุทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิที่สามารถให้ได้ แต่จนถึงนี้ทางบริษัทก็ยังไม่ได้เข้าแจ้งความกรณีมีคนนอกเข้ามาภายในบริษัทแต่อย่างใด ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากสอบสวนพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้างจะดำเนินการโดยไม่ละเว้น แม้ว่าพนักงานบริษัทจะเป็นอดีตตำรวจหรือข้าราชการอื่นตาม เนื่องจากเป็นธรรมดาที่บริษัทรักษาความปลอดภัยจะต้องมีบุคคลเหล่านี้มาฝึกอบรม แต่ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล การทำงานของตำรวจจะไม่มีแรงกดดันและพร้อมจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น. พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้เข้าตรวจสอบภายในบริษัทรักษาความปลอดภัยดังกล่าว เพื่อเก็บข้อมูลหลักฐานและสอบปากคำเหตุทำร้ายร่าง อดีต รปภ. ที่ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้เข้าตรวจสอบภายในบริษัทแล้ว