xs
xsm
sm
md
lg

สุดทนพ่อค้าขายเคสโทรศัพท์มือถือ โวยถูกงัดร้าน 6 วัน 4 ครั้ง แจ้ง ตร.คดีอืด ผวากางมุ้งนอนเฝ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



พ่อค้าขายเคสโทรศัพท์มือถือหนุ่มย่านตลาดเมืองนนท์ โวยถูกโจรงัดร้าน ขโมยของ 6 วัน 4 ครั้ง ของสูญหายมูลค่ากว่าสองแสนบาท ผวาหนักถึงขนาดกางมุ้งนอนเฝ้าร้าน มีหลักฐานกล้องวงจรปิดชัดเจน วอน ตร.ตามจับ

วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง ตลาดนัดนกฮูก เลี่ยงเมืองนนทบุรี อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังจากได้รับการร้องเรียนจาก นายมีชัย ปัพพานนท์ อายุ 35 ปี เจ้าของร้าน ออริจินอล เคส by พี่ดิน ว่า ถูกคนร้ายขโมยเคสโทรศัพท์มือถือ 240 ชิ้น มูลค่ากว่า 20,000 บาท หลังจากดูกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบว่า คนร้ายรายนี้ตระเวนก่อเหตุขโมยเคสโทรศพท์มือถือในตลาดนัดนกฮูกมาแล้ว 4 ครั้ง 3 ร้านค้า ภายใน 6 วัน รวมความเสียหายทั้ง 3 ร้าน สูญทรัพย์สินคิดเป็นเงิน กว่า 250,000 บาท ทำให้เจ้าของร้าน บางรายถึงกับหมดตัว และหวาดผวา ต้องนอนเฝ้าร้าน กลัวว่าคนร้ายจะมาก่อเหตุซ้ำ ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ แต่เรื่องเงียบไม่มีความคืบหน้า อยากวอนให้ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ลงมาช่วยเหลือ หลังแจ้งตำรวจในท้องที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ แล้ว เรื่องเงียบตามจับคนร้ายไม่ได้สักที ทั้งที่เห็นหน้าคนร้ายในกล้องวงจรปิดชัดเจน ถ้าคนร้ายเข้ามาขโมยอีกครั้ง จะรวมตัวกันไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

โดยหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์วันที่ 15 ม.ค. 65 เวลาประมาณ 11.30 น. เห็นคนร้ายเป็นชาย 1 ราย มีรูปร่างผอมสูง หน้าแหลม ใส่เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ ได้เดินเข้ามารื้อค้นเคสโทรศัพท์มือถือภายในร้านก่อนจะหยิบเทใส่ถุงพลาสติกสีน้ำเงินแล้วหยิบหนีออกไป

จากการสอบถาม นายมีชัย กล่าวว่า ช่วงเวลา 11.30 น. คนร้ายได้เข้ามาในตลาดและเปิดผ้าใบส่วนด้านหลังร้านเข้ามารื้อค้นของต่างๆ ในร้าน เปิดดูของทุกชิ้นทุกอย่าง เหมือนคนร้ายได้ดูลาดเลาร้านมาก่อน จึงรู้ว่าสิ่งของที่ต้องการวางอยู่ตรงนี้ คนร้ายได้เปิดผ้าและหยิบสินค้าบริเวณนี้ใส่ถุงเอาไปกองไว้ข้างร้าน หายไปซักพักนึงประมาณ 5 นาที คาดว่า น่าจะไปเอารถจยย.เพื่อมาใส่ของ โดยดึงของออกไปทางข้างหลังร้าน ลักษณะคนร้ายคาดว่าน่าจะอายุประมาณ 30 กว่าๆ ผิวแทนๆ รูปร่างสูง คนร้านรายนี้น่าจะเป็นคนเดียวกับที่เคยเข้ามาในตลาดครั้งที่ 4 ครั้งที่ 1 2 และ 3 ก่อเหตุร้านข้างหน้าตลาด ครั้งนี้คือครั้งที่ 4 ที่ร้านของตน ภายใน 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. 10 ม.ค. 12 ม.ค. และ 15 ม.ค. ซึ่งเป็นร้านตน ส่วนใหญ่เลือกร้านอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ เช่น ฟิล์มกล้อง เคสมือถือ ฟิล์มหน้าจอ เป็นร้านอุปกรณ์โทรศัพท์ทั้งหมด

จากที่พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าร้านอื่น มูลค่ารวมๆ กันประมาณ 2 แสนกว่าบาท ตอนนี้ตนรู้สึกไม่ปลอดภัยกับสินค้าที่เหลือในร้าน ไม่แน่ใจจะเข้ามาเอาอีกเมื่อไหร่ ถ้ามาอีกก็คงหมดตัว คนอยากให้ทางตลาดมีมาตรการดูแลคนเข้า-ออกตลาดให้ดีกว่านี้ เช่น มีรปภ.เพิ่มอีกซัก 1 จุด ปัจจุบันมีจุดเดียวอยู่ทางออกตลาด ทางตลาดไม่มีการรับผิดชอบใดๆ ตนต้องรับผิดชอบเอง เพียงแต่แนะนำให้นำกล่องมาใส่ให้มิดชิดกว่าเดิม แม้กระทั่งผู้บริหารหรือผู้ดูแลไม่เคยลงมาดูสารทุกข์สุกดิบของเราบ้าง ไม่เคยแม้มามองว่าจุดเกิดเหตุเป็นยังไง ตนกลัวคนร้ายเข้ามาก่อเหตุซ้ำอีก สินค้าที่ร้านมีมูลค่าถ้าคนร้านเอาไปทั้งหมดก็เสียหายหลักแสนคงหมดตัวไม่เหลืออะไรเลย ตนมองว่ามันถี่เกินไปมาก ภายใน 6 วันก่อเหตุจนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดหวาดระแวงกันหมด ตนแจ้งตำรวจที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ แล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่ากำลังตามสืบคนร้ายมาดำเนินคดี ภาพคนร้ายก็ชัดเจนขนาดนี้น่าจะตามตัวได้ไม่ยาก แต่อ้างว่าอยู่ระหว่างตามตัวอยู่ ตนอยากให้ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ลงมาช่วยดูพื้นที่หรือลงมากำชับดูแลคดีนี้ให้หน่อย ทุกคนในตลาดแทบจะมานอนเฝ้าร้านกันกันเองแล้วเพื่อป้องกันข้าวของตัวเองที่สูญหาย ทุกวันนี้พึ่งตำรวจไม่ได้คงต้องทำใจหันมาพึ่งตัวเอง หลังถูกคนร้ายขโมยของตนนอนไม่หลับเลยเพราะกลัวสินค้าหน้าร้านจะหายอีก ถ้าหายอีกเที่ยวนี้ก็คือหมดไม่เหลืออะไรแล้วคงต้องเปลี่ยนอาชีพใหม่อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะกล้องวงจรปิดได้จับภาพใบหน้าของคนร้ายชัดเจนมากจะได้ไม่ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก








กำลังโหลดความคิดเห็น