“คุณหญิงสุดารัตน์” มอบหมาย “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พร้อมทนายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน ดำเนินคดี “ดร.อานนท์” โพสต์หมิ่นประมาทกรณีฉีดวัคซีนซิโนแวค
วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สน.บางเขน นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย นายประพันธ์ เย็นสุข ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เข้าพบ พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก. (สอบสวน) บก.น.2 ปฏิบัติราชการ สน.บางเขน และ พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ และแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่โพสต์ภาพคุณหญิงสุดารัตน์ และเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ระบุชื่ออ้างว่าเป็นของคุณหญิงสุดารัตน์ ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง และมีเนื้อหาหมิ่นประมาทคุณหญิงสุดารัตน์ ลงเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายรัฐภูมิ กล่าวว่า วันนี้เป็นตัวแทนของคุณหญิงสุดารัตน์ ต้องการมาติดตามความคืบหน้าการแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายเสกสกล และแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายอานนท์ ซึ่งอยากสอบถามนายอานนท์ ว่า เหตุใดจึงโพสต์ข้อความดังกล่าวและตรวจสอบข้อมูลดีแล้วหรือไม่ เนื่องจากภาพเอกสารดังกล่าว มาจากการที่คุณหญิงสุดารัตน์ ไม่มีวัคซีนทางเลือกอื่น จึงต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวค และคุณหญิงสุดารัตน์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลจัดหาวัคซีนทางเลือกให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน แต่นายอานนท์ กลับนำข้อมูลไปใช้โน้มน้าวประชาชนว่าคุณหญิงสุดารัตน์เองก็สนับสนุนวัคซีนซิโนแวค
ทนายประพันธ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อความที่นายอานนท์โพสต์ พบว่า เป็นข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท เพราะส่งผลให้ได้รับความเสียหาย และได้รับความเกลียดชัง ซึ่งมีโทษทางอาญา เพื่อเป็นการรักษาสิทธิของคุณหญิงสุดารัตน์ จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนจะเข้าข่าย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่นั้น อยู่ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะดำเนินการอย่างไร
นายรัฐภูมิ กล่าวเพิ่มว่า การเข้าแจ้งความในครั้งนี้มาด้วยเหตุผลส่วนตัว ไม่ได้รับมอบหมายมาจากคุณหญิงสุดารัตน์แต่อย่างใด เนื่องจากได้อ่านข้อความของนายอานนท์แล้ว มองว่าเป็นเรื่องไม่สมควร ทั้งที่คุณหญิงสุดารัตน์ได้เรียกร้องวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชน และควรจะสนับสนุน แต่กลับทำการกล่าวหากัน ในส่วนของคอมเมนต์ ต้องพิจารณาว่ามีข้อความใดบ้างที่เข้าข่ายดูหมิ่น หากมีข้อความที่ส่งผลให้ได้รับความเสียหาย ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังยืนยันว่า นายอานนท์ ไม่ได้รู้จักกับคุณหญิงสุดารัตน์แต่อย่างใด ส่วนกรณีนายเสกสกลนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายเสกสกล เข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ซึ่งส่งผลให้คุณหญิงสุดารัตน์ได้รับความเสียหาย จึงเข้าแจ้งความที่ สน.บางเขน ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนสอบสวน จึงนำหลักฐานเป็นซีดีข่าวการให้สัมภาษณ์ของนายเสกสกล มามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้ และจะทำการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่ผู้ร้องนำมามอบให้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป