xs
xsm
sm
md
lg

ร้อง ผบ.ตร.เอาผิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจตุ๋นเหยื่อพันคดี หลอกให้โอนเงินเสียหายรวมกว่า 30 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจตุ๋นเหยื่อพันคดีอาญา หลอกให้โอนเงินเสียหายรวมกว่า 30 ล้านบาท ร้อง ผบ.ตร.ตั้งทีมทำงานพิเศษสืบสวนคดีทลายทั้งขบวนการ

วันนี้ (7 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กลุ่มผู้เสียหายประมาณ 10 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้ตำรวจปรับวิธีการทำงานให้เป็นแบบบูรณาการ หรือจัดตั้งคณะทำงานพิเศษ เพื่อสืบสวนสอบสวนคดีที่กลุ่มประชาชนถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจลวงเหยื่อโอนเงิน เป็นเหตุให้สูญเสียทรัพย์สินมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

น.ส.บี (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพเป็นโค้ชเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย. 2564 มีแก๊งมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นพนักงานบริษัทขนส่งพัสดุโทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าตนส่งของผิดกฎหมาย ก่อนจะโอนสายให้ชายอีกคนที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ และเจ้าหน้าที่ ปปง. หลอกลวงพูดคุยด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การพยายามสอบถามข้อมูลว่าได้ไปลืมบัตรประชาชนที่ไหนหรือไม่ จึงทำให้มีชื่อไปพัวพัน และอ้างมีข้อมูลว่าเราจะได้ 10 เปอร์เซ็นต์ จากยอดจึงต้องทำการตรวจสอบว่าบัญชีไหนที่เป็นบัญชีปลอม และให้บอกข้อมูลบัญชีทั้งหมดที่มี ถ้าข้อมูลไม่ตรงก็จะทำการอายัดบัญชี ใช้เวลาพูดคุยไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงกับมิจฉาชีพคนแรก

“เขาพยายามพูดคุยถ่วงเวลาในการตรวจสอบ และใช้จิตวิทยาทำให้เราหลงเชื่อว่า ระหว่างนั้นเขาบอกว่าเขาเชื่อว่าเราบริสุทธิ์และเขาจะช่วยเรา ก่อนจะบอกว่าจะไปช่วยคุยกับสารวัตรให้เราหลุดจากการเป็นผู้ต้องหา จนเราหลงเชื่อโอนเงินในบัญชีธนาคารต่างๆ ที่มีอยู่รวมความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ไปให้กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ หลังจากรู้จึงพยายามโทรกลับไปแต่ก็ไม่มีคนรับสาย จึงตัดสินใจไลฟ์ในเพจของเราเอง เพื่อให้คนอื่นรู้ให้ได้มากที่สุด เพื่อจะไม่ได้โดนแบบเรา” น.ส.บี กล่าวและว่า ครั้งนี้ทำให้ได้บทเรียนว่าอย่าละเลยการติดตามข่าวสารต่างๆ เพราะมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับเรามากๆ หวังว่า ทางตำรวจจะช่วยกันจับตัวคนร้ายให้ได้เพราะมีคนเดือดร้อนเยอะมาก ขณะนี้มีผู้เสียหายแล้ว 83 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท


สำหรับจดหมายเปิดผนึกของกลุ่มผู้เสียหาย ระบุว่า การดำเนินงานของตำรวจแต่ละฝ่ายมีลักษณะที่แตกต่างกันไป และไม่สอดคล้องกันจนอาจนำไปสู่ความล่าช้าในการติดตามขบวนการแก๊งมิจฉาชีพฯ ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ดังนั้น กลุ่มผู้เสียหายจึงขอความเห็นใจและความอนุเคราะห์จากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับการทำงานของ สน. และ สภ. ให้ปรับวิธีการทำงานเป็นแบบบูรณาการ เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบของคดี กลโกงและการหลบหนีของขบวนการแก๊งมิจฉาชีพที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งขั้นตอนการออกหมายเรียกและหมายจับบัญชีรับจ้าง (บัญชีม้า) แต่ละราย เพื่อให้คดีเกิดความรวดเร็วและสนับสนุนการทำงานของ บช.สอท.ที่กำลังจะเข้ามาช่วยเหลือต่อไป หรือจัดตั้งคณะทำงานพิเศษหรือหน่วยเฉพาะกิจเพื่อรับสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมขบวนการแก๊งมิจฉาชีพนี้ โดยเฉพาะมีอำนาจโดยตรงในการติดตามแกะรอยบัญชีรับจ้าง (บัญชีม้า) รวมถึงมีอำนาจในการตามเส้นทางการเงินของขบวนการแก๊งมิจฉาชีพ เพื่อนำทรัพย์สินกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น