MGR Online - บัณฑิตสาว แจ้งความ ปอท. ดำเนินคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็น DSL และ ตร.เชียงใหม่ ข่มขู่เอี่ยวคดีฟอกเงิน โดนหลอกโอนเงิน 4 แสนบาท
วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) น.ส.แพน (สงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 22 ปี บัณฑิตสาวมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ร้องทุกข์แจ้งความถูกกลุ่มมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โทรศัพท์ข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีฟอกเงิน และบังคับให้โอนเงิน 400,000 บาท ไปให้ตรวจสอบ สุดท้ายติดต่อไม่ได้ พร้อมขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ตามตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี
น.ส.แพน เผยว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10.00 น. ได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขขึ้นต้นด้วย 060 โดยบุคคลปลายทางอ้างตัวเป็น เจ้าหน้าที่บริษัทส่งพัสดุสินค้าต่างประเทศ DSL แจ้งว่า พัสดุที่ส่งออกไปกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ถูกตีกลับ โดยในกล่องพัสดุพบ เสื้อผ้าจำนวนหนึ่งที่ซุกซ่อนพาสปอร์ต 5 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 15 ใบ มีชื่อตนเอง เป็นผู้ส่ง
จากนั้น บุคคลที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทส่งพัสดุ แนะนำให้แจ้งความตำรวจ สภ.เชียงใหม่ ก่อนโอนสายไปอีกบุคคลอื่นรวม 4 คน ซึ่งอ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยพูดจาข่มขู่ว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน ต้องโอนเงินในบัญชีทั้งหมดไปให้ตรวจสอบ และข่มขู่ว่าหากไม่ทำตามจะมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน
น.ส.แพน เผยอีกว่า ตนเกิดความหวาดกลัวและหลงเชื่อ ก่อนโอนเงินในบัญชีธนาคารของตัวเอง 2 บัญชี ไปยังบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์แก่บุคคลหนึ่ง ซึ่งอ้างว่า เป็นบัญชีของตำรวจ จำนวน 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 353,825 บาท บอกว่า ขอตรวจสอบบัญชี 10 นาทีจะโอนคืนให้ จากนั้นไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้อีก หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความ สภ.ปากเกร็ด เพื่ออายัดเงินแต่ไม่ทันคนร้ายนำเงินออกไปแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ธนาคาร และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องให้เจ้าของบัญชีธนาคารโอนเงินมาให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบ เพราะหากพบว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พนักงานสอบสวนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะใช้อำนาจตามกฎหมายในการยึด อายัดบัญชีธนาคาร โดยจะเป็นผู้ติดต่อกับทางธนาคารโดยตรง จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อ และหากมีผู้ใดอ้างว่าต้องให้ท่านโอนเงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้เร่งรัดดำเนินการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างเข้มข้นต่อไป
ขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนที่ได้รับการติดต่อโดยผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือ พนักงานบริษัทขนส่งพัสดุ โทรศัพท์หาพี่น้องประชาชนและใช้พฤติกรรมดังกล่าว ขอให้ตั้งสติ อย่าหลงเชื่อ และสามารถตรวจสอบโดยโทรศัพท์สอบถามไปยังหน่วยงานดังกล่าวได้โดยตรง และสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานีตำรวจ และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อได้ผ่านแอปพลิเคชั่น PolicePhoneBook ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ผ่านช่องทาง https://apps.apple.com/th/app/policephonebook/id1465554530 (iOS/iPadOS) และ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.zealtech.policephonebook2019 (Android) หรือสามารถแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง