MGR Online - เลขาฯ รมว.ยธ. รับเรื่อง ศรีสุวรรณ จรรยา มายื่นเรื่องขอค้านย้าย “เปรมชัย” ป่วยโรคประจำตัวรักษานอกเรือนจำ หวั่นได้อภิสิทธิ์ชน
วันนี้ (30 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าพบ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นคำร้องคัดค้านการส่งตัวนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้บริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่ถูกศาลตัดสินจำคุกคดีเสือดำ ในเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ ไปรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือนอกโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ หลังมีอาการป่วยหลายโรค
นายศรีสุวรรณ เผยว่า สืบเนื่องจาก ภรรยานายเปรมชัย มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เพื่อขอให้ส่งตัว นายเปรมชัย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยอ้างว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ และเกรงว่า นายเปรมชัย จะติดโควิด-19 ในเรือนจำ เพราะวิตกกังวลว่าเครื่องมือการรักษาและเจ้าหน้าที่ของเรือนจำจะดูแลได้ไม่ดีพอ ทั้งนี้ ทุกคนต้องไม่มีอภิสิทธิ์ชนใดๆ ในระบบการลงทัณฑ์นักโทษตามคำพิพากษาของศาล ถ้าคนรวยขอได้ คนจนก็ต้องขอได้เช่นกัน ย้ำต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติ ไม่เช่นนั้นจะร้องเอาผิด รมว.ยุติธรรม ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทันที
นายศรีสุวรรณ เผยอีกว่า การขอย้ายผู้ต้องขังไปรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น ในอดีตเคยใช้เป็นเทคนิควิธีการที่จะช่วยผู้ต้องขังไม่ให้ต้องรับโทษในเรือนจำ เพราะในโรงพยาบาลจะกิน จะนอน เดินเหินสามารถทำได้สะดวก โดยไม่ต้องคอยปฏิบัติระเบียบกฎเกณฑ์ในการอยู่ในเรือนจำที่เข้มงวด ดังนั้น นักโทษที่มีเงิน มีชื่อเสียง ก็มักจะใช้เทคนิควิธีการดังกล่าวกันมากในอดีต แต่ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์มีระบบการรักษาพยาบาลผู้ต้องขังที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลแล้ว อีกทั้งยังมีทัณฑสถานโรงพยาบาลที่มีคุณภาพ การใช้ข้ออ้างและเทคนิคดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้ว
“นอกจากนี้ นายเปรมชัย เพิ่งถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุกในคดีเสือดำ เป็นเวลา 2 ปี 14 เดือน และเพิ่งเข้ารับโทษ ชดใช้กรรมเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา ยังไม่ทันข้ามเดือน ข้ามปี ก็มาเรียกร้องขอความเป็นธรรมกันแล้ว รวมถึงยังด้อยค่าเครื่องมือและเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ ในระบบการดูแลผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์เสียอีก ซึ่งกรมราชทัณท์ และกระทรวงยุดิธรรมไม่ควรตกหลุมพรางในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หาก รมว.ยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยินยอมให้มีการย้ายตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือนอกโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ได้ สมาคมฯ จะนำความไปยื่นร้องต่อศาลทุจริต หรือ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดตามครรลองของกฎหมาย” นายศรีสุวรรณ กล่าว
ด้าน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า ขณะนี้ นายเปรมชัย ยังอยู่ระหว่างการกักโรคในเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ โดยอยู่ห้องกักโรคเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป ไม่มีพัดลม นอนพื้นมีผ้า 3 ผืน น้ำดื่มปกติ ไม่มีอภิสิทธิ์ชน และนายเปรมชัยไม่ได้ร้องขออะไร แต่ญาติอาจเป็นห่วง เพราะนายเปรมชัยมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน เส้นเลือดดำที่ขาอุดตัน และเพิ่งผ่าตัดต้อกระจกตา ส่วนที่ขามีแผล ประกอบกับมีปัญหาน้ำหนักตัวมาก อาจนั่งส้วมซึมไม่ได้ ราชทัณฑ์ก็ได้ดูแลเรื่องการรักษาต่อเนื่อง ยืนยันนายเปรมชัยไม่มีอภิสิทธิ์ ส่วนที่ภรรยานายเปรมชัยมายื่นคำร้องก็สามารถทำได้ตามสิทธิ์ แต่จะอนุญาตให้ไปรักษาตัวที่ใดเราทำตามอำเภอใจคนมายื่นหนังสือไม่ได้ เพราะมีกฎระเบียบราชทัณฑ์
เลขานุการ รมว.ยธ. กล่าวอีกว่า หลักการเบื้องต้น หากนายเปรมชัยมีอาการเจ็บป่วยจะได้รับการรักษาจากกองแพทย์ประจำเรือนจำ ถ้าไม่สามารถรักษาได้ก็จะส่งต่อไปที่โรงพยาบาลแม่ข่ายประจำอำเภอ หากแพทย์โรงพยาบาลแม่ข่ายวินิจฉัยว่าเกินกว่าที่จะรักษาได้ก็ต้องส่งมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์จะต้องตอบรับการรักษาด้วย เว้นแต่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีเครื่องมือรักษาได้ก็จะพิจารณาส่งโรงพยาบาลภายนอก ซึ่งกระบวนการตรงนี้เป็นเรื่องจริยธรรมทางการแพทย์ กระทรวงยุติธรรม หรือกรมราชทัณฑ์ ไม่สามารถแทรกแซงได้