โจทก์เก่าบุกบ้าน “หญิงไก่” โวยถูกโกง ก่อนโทร.ขอความช่วยเหลือตามทนายดัง พา ตร.มาระงับเหตุ

“หญิงไก่” พ้นโทษแล้ว โจทก์เก่าบุกบ้านอ้างถูกฉ้อโกง เจ้าตัวโทร.ตามทนายทนายโป้ง ขอความช่วยเหลือ พาแจ้งความคู่กรณี อ้างโทร.หา ตร.ไม่มีใครรับสาย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางศรัญญา หรือ “หญิงไก่” อุปปาตะสันติ อายุ 65 ปี อาชีพแม่บ้าน ว่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 10.45 น. นางสาวญาดาภา หรือ สินิทธิ์ ลักษณัย และชายวัยกลางคน ขับรถยนต์เก๋งลักษณะคล้ายรถยี่ห้อนิสสัน รุ่น NV สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 2 ฒฮ 3829 กทม. เข้ามาภายในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านงามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยที่ฝ่าฝืนไม่ยอมแสดงบัตรกับทางเจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำป้อมยามของทางหมู่บ้าน อาศัยช่วงจังหวะไม้กั้นเปิดรีบขับรถเข้ามาและบุกเข้าไปหน้าบ้าน พูดจาข่มขู่ด่าทอเสียงดัง และพยายามจะเปิดประตูรั้วเหล็กบริเวณหน้าบ้านหญิงไก่ เพื่อจะเข้าไปในบ้าน มีการยื้อยุดชุดกระชากกัน โชคดีที่ประตูบ้านของทางหญิงไก่ต้องดึงเพื่อจะเปิดออก แต่ทางชายที่บุกรุกเข้ามาไปดันประตูเข้าทำให้เข้าไม่ได้ ทำให้ทางหญิงไก่ปิดประตูลงกลอนได้ทัน แล้วรีบวิ่งหนีเข้าบ้านก่อนโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุ

ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 15.00 น. ทางหญิงไก่ได้เดินทางมาพร้อมด้วย นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา และได้นำหลักฐานเป็นคลิปจากโทรศัพท์มือถือที่วิน จยย.เป็นพลเมืองดีถ่ายเก็บเอาไว้ได้ เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ 3 ข้อหา คือ 1 .ข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว ความตกใจโดยการขู่เข็ญ 2 .หมิ่นประมาทใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ทำให้เกิดความเสียหาย 3. บุกรุกในเคหะสถานโดยไม่มีเหตุอันควร

นางศรัญญา หรือ หญิงไก่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. เวลาประมาณ 11.00 น. ตนนั่งทานข้าวอยู่ มีรถคันหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วและตีโค้งบริเวณหน้าบ้าน ถอยหลังตรงและทิ่มหัวไปที่ประตูบ้าน และมีผู้ชายกับผู้หญิงเดินลงมาจากรถแล้วผลักประตู ตนเลยรีบวิ่งออกมาจากบ้าน แล้วมาดันประตูไว้ รีบนำกุญแจมาล็อก แล้วรีบวิ่งหนีเข้าบ้าน ตนโทรศัพท์ไปที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ หลายครั้ง แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรับสาย นึกขึ้นได้เลยโทร.หาทนายโป้ง เพราะว่าตนเคยดูทีวีและจดเบอร์โทรศัพท์ไว้ เห็นว่า ทนายคนนี้ ดีและคอยช่วยเหลือประชาชน ใช้ทนายโป้งช่วยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ ผู้ที่บุกรุกเข้ามากัน 2 คน ผู้ชายอายุประมาณ 30 กว่า ส่วนผู้หญิง ตนรู้จักดีอายุประมาณ 70 ปี เคยมีปัญหาเรื่องคดีฟ้องร้อง เรื่องคดีความกันมาก่อนถึง 4 คดี แต่ตนฟ้องไปแค่คดีเดียว อีก 3 คดีไม่ได้ฟ้อง ก่อนหน้านี้ มีการใส่ร้ายตนจึงได้ไปแจ้งความไว้ หลังจากนั้น ผู้หญิงคนที่บุกรุกเข้ามาที่บ้านมาขอคืนดีและมาขออยู่ในบ้านด้วย ตนใจอ่อนให้อยู่ด้วย ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ตนบังเอิญเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ได้ทำเรื่องปลอมแปลงเอกสารเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งชื่อเบญจวรรณ ผู้หญิงคนนี้ได้มีการตัดต่อเอกสารสมมติว่าเขียนเช็ค 1 แสน แต่ไม่เอาเช็คไปขึ้น แต่มาเขียนสัญญาเงินกู้ 1 ล้านบาท และตัดชื่อที่เช็คมาแป๊ะในสัญญาเงินกู้และถ่ายเอกสารหลายๆ ครั้ง เพื่อให้แนบเนียนแล้วเอาตัวที่ถ่ายไปใช้ ตนมองว่าคนนี้ต้องทำอะไรผิดกฎหมายแน่นอน

ตนจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.ประชาชื่น และให้เขาออกจากบ้านไป หลังจากที่ให้ออกจากบ้าน ตนถูกเขาข่มขู่มาตลอด แต่ตนไม่ได้สนใจ จนเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา คดีที่ตนฟ้องร้องเขาอยู่ มีการขึ้นศาลไต่สวนข้อหาแจ้งความเท็จฟ้องเท็จเบิกความเท็จ ระหว่างขึ้นศาลขอไกล่เกลี่ย ตนเลยบอกว่าไม่อยากให้ ผู้หญิงคนนี้มายุ่งที่บ้านของตน เพราะว่ามีพฤติกรรมแปลกๆ เขาได้มีการทำเรื่องฟ้องร้องคนอื่น ถึงเกือบ 40 คดี ตนเห็นเอกสารแล้วเป็นการปลอมแปลงทั้งหมด สาเหตุที่เขามาข่มขู่ตนวันนี้ คาดว่า น่าจะเกี่ยวกับเอกสารปลอมแปลงทั้งหมดที่ตนเก็บเอาไว้ วันที่ตนขึ้นศาลกับเขา ตนพูดกับศาลว่าเอกสารตัวจริงทั้งหมดตนเป็นคนเก็บเอาไว้ เขาคงอยากได้เอกสารคืนเลยมาข่มขู่อย่างในคลิป ตอนเกิดเหตุตนแจ้งตำรวจแต่ยังไม่มา ตนเลยโทร.ไปตามวิน จยย.รับจ้างให้มาช่วยเหลือและให้ช่วยถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ ตนจะแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด สำหรับหน่วยงานที่ถูกคนนี้ปลอมแปลงเอกสารไปฟ้องร้อง โดยเฉพาะกรมบังคับคดีและหน่วยงานราชการ ถึงเวลาตนจะเปิดเผยให้ ส่วนโฉนดที่ดิน นางสาวญาดาภา ได้มาจำนองตนไว้ในราคา 2 แสนบาท ทำเอกสารถูกต้องกำหนดชำระสิ้นปีนี้ แต่กลับจะมาทวงคืน

นายเอ (นามสมมติ) กล่าวว่า ช่วงเช้าประมาณ 10.30 น.ตนขี่รถ จยย. รับ-ส่งผู้โดยสาร พี่ผู้หญิงโทร.มาบอกให้ช่วยเข้ามาดูหน้าบ้านให้หน่อย มีเรื่องทะเลาะวิวาท ตนก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร เขาบอกให้มาช่วยหน่อยเพราะอยู่คนเดียว ตนจึงได้เข้ามาช่วยเพราะตนเคยขนของเคยยกของให้เขา เห็นเขาอยู่คนเดียวกลัวจะเป็นอันตราย เลยเข้ามาดูได้ถ่ายคลิปไว้เป็นพยานหลักฐาน เพราะกลัวจะมีเรื่องการทำร้ายร่างกาย ตนเจอผู้ชายกับผู้หญิง ผู้ชายอายุประมาณ 40 กว่าๆ ส่วนผู้หญิงอายุประมาณ 60 กว่าๆ ตัวผู้ชายเดินลงมาจากรถ บอกให้เขาออกมาเลย ออกมาอยากมีปัญหาเหมือนกัน ตนมาถึงช่วงนี้ซึ่งก่อนหน้านี้ตนไม่รู้ว่ามีอะไร ตนเลยถ่ายคลิปและส่งให้ทางทนาย เขาตะโกนด่า ข่มขู่อยู่หน้าบ้าน ช่วงที่ตำรวจมาแล้ว เขาตะโกนบอกว่าไม่ต้องถ่ายๆ ถ่ายทำไมน้อง ตนก็ไม่สนใจ ก็ถ่ายไปเป็นพยานหลักฐาน เขาว่าตนว่ามาทำไมเป็นอะไรกับบ้านหลังนี้ ตนบอกเขาอยู่คนเดียวกลัวเป็นอันตรายเลยมาดู ด่าหยายคาย ก็มีก่อนตนมา แต่ตอนตนอยู่เขาไม่ได้ด่าอะไร ตอนนั้นเขาเกรี้ยวกราดอยู่กำลังมีอารมณ์ ตนก็รออยู่สักพักค่อยออกไป กลัวถ้าตนออกไปจะมีอันตราย เขาก็มีพูดว่าฉ้อโกง โกงเงินเขามาแล้วไม่ยอมใช้ เอาโฉนดเขามาเอาไป กูอยากมีเรื่องแล้ว กูอยากมีเรื่องเหมือนกันอะไรประมาณนี้ คนผู้ชายที่พูด ป้าผู้หญิงยังไม่ลงมา ผู้หญิงลงมาบอกแค่ว่าจะให้ไปคุยกับตำรวจอย่างเดียว มีช่วงเข้าไปหน้าบ้าน แต่ตนไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไร เขาพูดเบา ก็เป็นเหมือนในคลิปตนเลยถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน

ทนายโป้ง กล่าวว่า วันนี้เวลาประมาณ 11.00 น. มีเบอร์โทรศัพท์โทร.เข้ามาที่มือถือตน ตนรับสายปลายทางเป็นเสียงผู้หญิงวัยกลางคน แจ้งด้วยเสียงสั่นเครือว่าทนายโป้งหรือเปล่านี่ พี่ไก่นะ พี่ไก่กำลังเดือดร้อน มีคนมาบุกรุกที่บ้านต้องการความช่วยเหลือ พี่โทร.หาตำรวจก็ไม่ได้ ช่วยโทร.หาให้หน่อย ตนเลยช่วยโทร.และสอบถามพิกัด พอทราบตนเลยให้พรรคพวกช่วยติดต่อที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้สายตรวจลงพื้นที่ช่วยดูหน่อย เดี๋ยวตนจะมาช่วยดูและมาดูว่าปลายสายที่ชื่อพี่ไก่โทร.มาจริงหรือเปล่า ตนมาถึงประมาณเที่ยงก็เจอวิน จยย.กับ รปภ.เอาคลิปให้ตนดูว่าช่วงระหว่าง 10.00-11.00 น. มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ตนดูคลิปจึงบอกว่าแบบนี้สามารถแจ้งความได้ เป็นเรื่องของการข่มขู่คุกคามทำให้หวาดกลัว และเรื่องของการบุกรุก เพราะมีข้อเท็จจริงว่าเข้าไปยังเขตที่พักอาศัยและมีการหมิ่นประมาท มีการพูดใส่ความว่าคนชื่อไก่เป็นคนไม่ดีอะไรยังไงให้กับวิน จยย. ให้กับ รปภ.และเพื่อนบ้านฟังจากการดูเอกสารและหลักฐาน จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์