แอปเงินกู้เถื่อนเกลื่อนเมือง เจอล่าสุดพนักงานบริษัทซวยซ้ำซ้อน ถูกเว็บหลอกลงทุน 8 หมื่น ถูกแอปกู้เงินหลอกอีก 1.3 แสน ทนายวอนผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบปราบปรามจริงจัง
วันนี้ (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ชมรมทนายจิตอาสา ต.เสาธงหิน จ.นนทบุรี นางวรัญญา อายุ 35 ปี อาชีพ พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งย่านสีลม ถูกเว็บ Walmart หลอกให้ร่วมลงทุนในออนไลน์สูญเงินไป 8 หมื่นบาท คนร้ายให้โอนเงินเพิ่มให้ครบ 1.3 แสนบาท จะได้ยอดคืนมาทั้งหมด 3 แสนบาท แต่ก็ถูกหลอกไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว ทางผู้เสียหายอยากได้เงินไปโป๊ะเว็บที่ให้ร่วมลงทุนให้ครบจำนวน จึงไปติดต่อกับแอปกู้เงินออนไลน์ของบริษัท วีซีเวลท์ เพื่อติดต่อขอกู้เงิน 1.3.แสนบาท แต่ทางแอปให้ผู้เสียหายโอนเงินไปก่อน มีค่าเอกสาร ค่าเงินประกัน และค่าเปอร์เซ็นต์ของเงินที่กู้ ทำให้ผู้เสียหลงเชื่อโอนเงินไปทั้งหมด 6 ครั้ง รวมทั้งหมดประมาณ 1.6 แสนบาท ซึ่งโดยรวมแล้วผู้เสียหายถูกทั้ง 2 แอปหลอก ทำให้สูญเงินไปทั้งหมด 2.4 แสนบาท จึงเข้ามาร้องทุกข์ทนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง เพื่อขอความช่วยเหลือ
น.ส.วรัญญา เลิศพงษ์ศิริไพศาล อายุ 35 ปี อาชีพพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งย่านสีลม กล่าวว่า ตนเจอแอปนี้จากเว็บอ่านข่าวของไทย Daily ลงโฆษณาเป็นการลงทุนมีรายได้วันละ 5,000 บาท ตนเลยกดเข้าไป มีผู้ชายคนนึงทักมาว่าถ้าสนใจให้กรอกข้อมูลลงทะเบียน หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จจะมีคนดึงเข้าไปใน LINE ซึ่งแรกๆ จะลงทุนหลักร้อยก่อน พอเห็นเราลงทุนเยอะเลยดึงเข้าไปอีกกลุ่ม เพื่อจะลงทุนมีทั้งหมด 4 ภารกิจ เริ่มต้นภารกิจแรกจะเสียเงินลงทุน 5,000 บาท ลงทุนวันนี้จะได้ผลกำไรกลับไป 1,000 บาท ตนลงเงินลงทุนไป 5,000 บาท แต่ยังไม่มีเงินคืนกลับมาให้หาเงินมาเพิ่มอีกจำนวน 15,000 บาท จะได้เงินคืนมาจำนวน 22,000 บาท ก็ยังไม่ได้เงินคืนกลับมา ให้โอนเงินไปอีกจำนวน 60,000 บาท จะได้เงินคืนกลับมา 9,000 บาท แต่พอโอนไปไม่ได้คืนกลับมา จนภารกิจสุดท้ายต้องหาเงิน 130,000 บาท เพื่อจะได้เสร็จสิ้นภารกิจจะได้เงินกลับมาจำนวน 3 แสนกว่าบาท แต่ตนหาไม่ได้แล้วจึงไม่ได้โอนเงินไปให้เขา ตนเลยตัดสินใจโทร.หาเจ้าหน้าที่บอกว่าขอเงินคืน เนื่องจากตนยืมเงินคนอื่นมา ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ได้ต้องทำภารกิจให้เสร็จก่อนถึงจะได้เงินคืนกลับมาจำนวนเงินทั้งหมดที่ลงทุนไป 80,000 บาท โดยโอนไปทั้งหมด 3 ครั้ง ภายใน 1 วัน ซึ่งตนไม่รู้ว่าคนในกลุ่มไลน์ที่ร่วมลงทุนด้วยเป็นคนข้างนอกหรือเป็นคนของเขา
มีเจ้าหน้าที่ที่ใช้นามสมมติว่า เป็นดอกเตอร์มาพูดคุยกับตนเอง ตนต้องไปยืมเงินคนอื่นมาตนไม่สามารถหาเงินได้แล้ว หลังจากนั้นอีก 1 วัน ตนไม่รู้จะทำยังไง จึงได้ไปหาแอปเงินกู้ เพื่อจะนำเงินไปโป๊ะที่ลงทุนไว้ให้ครบ พอเจอแอปเงินกู้ตนจึงได้กรอกรายละเอียดเพื่อจะกู้เงินจากแอปจำนวน 130,000 บาท พอระบบอนุมัติเสร็จ มีเจ้าหน้าที่ทักมาว่าต้องโอนเงิน 10 เปอร์เซ็นต์ของวงเงินทั้งหมด 130,000 บาท เป็นเงิน 13,000 บาท พอตกลงเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่บอกว่าข้อมูลผิดต้องโอนเงินกลับไปเพื่อจะแก้ไขข้อมูลเป็นจำนวนเงิน 35,000 บาท หลังจากนั้น มีการให้โอนเงินกลับไปอีกจำนวน 22,000 บาท เพื่อเป็นการยืนยันการถอนเงินใหม่ เหมือนเป็นรหัสถอนเงิน ต่อมาทางเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องเสียเงินเพิ่มค่าประกันอีก 50,000 บาท พอทำเสร็จระบบมีปัญหาต้องโอนอีก 25,000 บาท ขั้นสุดท้ายเป็นการเปลี่ยนระบบถอนเงินใหม่โอนไปอีกจำนวน 15,000 บาท รวมทั้งหมดจำนวน 160,000 บาท ภายในวันเดียว จากที่เราทำเรื่องกู้แค่ 130,000 บาท หลังจากที่ตนไม่โอนเงินไปให้ทางคนร้ายได้ข่มขู่ส่งเอกสารของทางบริษัทว่าจดทะเบียนถูกต้อง ตนเช็กแล้วชื่อบริษัทนี้มีอยู่จริง พอไปดูในกูเกิลได้เบอร์โทร.มา พอโทร.ไปไม่มีคนรับสาย รวมทั้ง 2 แอปลงทุน และแอปเงินกู้จำนวน 2 แสนกว่าบาท หลังจากคนร้ายไม่ได้เงินที่เหลือ ทางคนร้ายได้นำรูปภาพของตนและบัตรประชาชนไปลงในเอกสารที่มีตราสัญลักษณ์ของกองปราบ ว่า ตนเป็นคนร้ายแล้วขู่ว่าจะดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงเงินหาว่าเอาเงินมาแล้วไม่รับผิดชอบ ตนจึงประสานไปที่กองปราบบอกว่าเป็นมิจฉาชีพแน่นอนให้ตนไปแจ้งความ ตอนนี้ต้องหาเงินมาคืนคนที่ยืมมาใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้รู้สึกเครียดมากๆ อยากให้ทนายโป้งช่วยเหลือให้ได้เงินคืน
ทนายโป้ง กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของการฉ้อโกงเป็นเรื่องของแอปออนไลน์และกู้เงินออนไลน์มีการหลอกลวงเรื่องของการลงทุนอ้างว่าลงทุนซื้อแพลตฟอร์มรายใหญ่ 2 เจ้า เป็นแพลตฟอร์มสีน้ำเงินและแพลตฟอร์มสีส้ม ถ้าลงทุนจะมีเงินเข้ามาวันละ 5,000 บาท หรือว่าลงทุนไป 1.2 แสนบาท จะได้เงินคืนมา 3 แสนบาท ซึ่งผู้เสียหายลงทุนไปแล้ว 8 หมื่นบาท และยังลงทุนไม่ครบจึงเข้าไปหาแอพกู้เงินจำนวน 1.3 แสนบาท แต่ทางแอปอ้างให้โอนเงินไปก่อนบอกว่าค่าเอกสาร และค่าประกันและอื่นๆ ทางผู้เสียหายจึงโอนเงินไปครั้งละหลายๆหมื่นรวมทั้งหมด 1.6 แสนบาท ส่วนในทางกฎหมาย เป็นความผิดฐานฉ้อโกงและเรื่องการปลอมแปลงเอกสารใช้เอกสารปลอม เพราะมีการอ้างว่าเป็นรูปแบบทางบริษัทและอ้างจากธนาคารแห่งประเทศไทย และมีหนังสือหน่วยงานราชการมายืนยันเยอะ แต่จากการตรวจสอบไม่มีอยู่จริงและผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่ต้องเข้ามารับผิดชอบเร่งด่วนที่สุดเพราะมีหลายรายแล้ว หน่วยงานแรกคือ กสทช. ควบคุมระบบออนไลน์ทั้งหมดต้องออกมารับผิดชอบ ให้หยุดยั้งการแพร่ข้อมูลในระบบต่างๆ ทุกแพตฟอร์ม ทุกๆ แอปพลิเคชัน และทางธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องชี้แจงเรื่องของการโอนเงิน ต้องรีบส่งเอกสารกลับมาอย่างรวดเร็ว เพราะผู้เสียหายรายนี้ผ่านมา 20 วันแล้ว ไม่มีความคืบหน้า และอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้เข้ามาจัดการดูแลให้เรื่องแบบนี้ดำเนินการต่ออย่างเร็วไว ถ้าไม่ลงมือเข้ามาช่วยเรื่องแบบนี้คงไม่จบง่ายๆ