“สมศักดิ์” ปลื้ม! ต่างชาติจับมือไทย ยกระดับปราบยาเสพติดเข้มข้นยิ่งขึ้น

MGR Online - รมว.ยุติธรรม ระบุ หลายประเทศร่วมมือกับไทย สกัดกั้นยาเสพติดมากขึ้น เผย กฎหมายฉบับใหม่เน้นยึดทรัพย์ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตัดวงจรเครือข่าย

วันนี้ (23 ธ.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) กล่าวถึงการร่วมมือปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ ว่า จากการที่ไทยได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณจากออสเตรเลีย โดยมี นายอัลลัน แมคคินนอน เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เป็นผู้มอบให้กับเรา เกิดจากที่เราร่วมมือกันจับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญซึ่งเป็น 1 ใน 14 หมายจับสำคัญของออสเตรเลีย ทำให้นานาประเทศเชื่อมั่นในการทำงานเพื่อสาวไปจนถึงคนบงการ ทำให้มีประเทศขอทำงานร่วมกับ ป.ป.ส.มากขึ้น

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่า เราไม่นิ่งดูดาย ไม่เคยต้องการให้ยาเสพติดเข้าประเทศ และการปล่อยยาเสพติดสู่ประเทศที่ 3 จากนี้งานด้านยาเสพติดของเราจะเข้มข้นขึ้น ขณะนี้ประเทศไทยได้มีความร่วมมือกับ 26 ประเทศ ที่ได้แลกเปลี่ยนข่าวสารและประชุมร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมถึงการเพิ่มมาตรการร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อปราบปรามจับกุมนักค้ายาข้ามชาติอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ ยังมีร่วมมือแลกเปลี่ยนยาเสพติด เพื่อนำไปศึกษาองค์ประกอบเพื่อสืบหาที่มาและร่วมกันสกัดกั้นยาเสพติดอีกด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้ไปแล้ว ต่างชาติก็ได้ให้ความสนใจในเรื่องของการยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติดของเรา ที่มีการบัญญัติให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น โดยมีความร่วมมือกับหลายภาคส่วนทั้ง ธนาคาร สถาบันการเงิน กรมสรรพากร ซึ่งในประมวลกฎหมายใหม่นี้ เราจะเน้นการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ค้ายาเสพติด ตรวจสอบสเตรทเมนต์ และจะกระจายการศึกษาไปยังเจ้าหน้าที่ทั่วทั้งประเทศในเรื่องของการคำนวณมูลค่าทรัพย์สิน เพื่อกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดให้ลดน้อยถอยลงไปจากประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้แกนนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่ง ป.ป.ส., ทหาร, ตำรวจ และอัยการ อาจจะต้องทำงานหนักขึ้น แต่การพิจารณาคดีของศาลจะง่ายกว่าเดิม ตนต้องขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกท่านเพื่อลูกหลานและประเทศของเราจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

“จากนี้เราจะมีการอบรม นักสืบสวนธุรกรรมทางการเงิน และนักสืบทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด โดยจะมีผู้รู้ จากธนาคาร สถาบันทางการเงิน สรรพากร ให้เจ้าหน้าที่ทุกจังหวัดได้เรียนรู้เพื่อประโยชน์ในการทำงาน เพื่อประโยชน์ในการทำงาน และหลังจากนั้นอาจจะมีการอบรมต่อในขั้นสูง โดยผมจะเร่งให้มีการเปิดอบรมนี้โดยด่วน ภายในเดือน ม.ค. 2565 จะต้องมีความชัดเจน นอกจากนี้ ยังจะต้องมีการอบรมการรวบรวมพยานหลักฐานในชั้นสืบสวน ในชั้นอัยการ และการรับฟังพยานหลักฐานในชั้นศาล เพื่อให้ทุกอย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน การทำงานจะได้ราบรื่นไม่เกิดการติดขัดด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว