ตร.แจ้่งข้อหาหนุ่มซิ่งเบนซ์ป้ายแดงชนท้ายเก๋งเสียชีวิต 3 ศพบนทางด่วน ฐานขับรถประมาทเป็นเหตุผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเมาสุราขณะขับรถ ก่อนอนุญาตให้ประกันตัวด้วยเงินสด 2 แสนบาท เจ้าตัวยกมือไหว้สำนึกผิดขอโทษ ยืนยันไม่มีเจตนา พร้อมไปร่วมงานศพ และยินดีชดใช้ค่าเสียหาย
จากกรณี นายจินทวัส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี เป็นวิทยากรสร้างการเป็นแม่ค้าออนไลน์ และเป็นรองกรรมการผู้จัดการ ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อเครื่องสำอางชื่อดัง ขับรถเมอร์เซเดสเบนซ์ ป้ายแดง ชนรถยนต์ฮอนด้า บริโอ้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บนทางด่วนศรีรัช ขั้นที่ 2 ทิศทางมุ่งหน้ามอเตอร์เวย์ ช่วงบริเวณข้ามคลองแสนแสบ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (18 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. ที่สน.ทางด่วน 2 นายจินทวัส กล่าวภายหลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 2 นานกว่า 3 ชั่วโมง พร้อมยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 2 แสนบาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวว่า ได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแสดงความเสียใจจากใจจริงกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ตนไม่มีเจตนา พร้อมกับยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด และในวันนี้ ตนจะเดินทางไปเข้าร่วมงานศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เบื้องต้น ได้มีการพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตซึ่งแต่ละรายก็ไม่ได้มีการเรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ
ด้าน พ.ต.ท.ประสิทธิ์ วิรัตยาภรณ์ รองผกก.สน.ทางด่วน 2 กล่าวว่า ตำรวจได้ดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับรถขณะมึนเมาสุรา แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุไปสังสรรค์กับเพื่อนย่านรามอินทรามา ขณะเกิดเหตุได้ให้การว่า ไม่เห็นรถคู่กรณีมาก่อน กระทั่งมีการชน ส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้
พ.ต.ท.ประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากคู่กรณีมีฐานะทางสังคม แล้วจะมีผู้ใหญ่กดดันเรื่องคดี นั้น ตนขอยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นจากการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายพบว่ามีจำนวน 99 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ส่วนเรื่องหลักฐานการตรวจสอบรถนั้น อยู่ระหว่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
พ.ต.ท.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเยียวยา ตนทราบว่าทางคู่กรณีได้มีการเจรจากัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปหรือข้อยุติ ซึ่งอาจต้องมีการนัดพูดคุยกันใหมาอีกครั้ง ซึ่งเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องของทั้ง 2 ฝ่าย ที่จะต้องมาทำความเข้าใจกัน
ภายหลังนายจินทวัสได้รับทราบข้อหาแล้ว และได้ขอยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วว่า นายจินทวัสไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และหลังจากรับทราบข้อหาแล้วจะไปงานร่วมพิธีศพของผู้เสียชีวิต ทางพนักงานสอบสวนจึงพิจารณาให้ประกันตัว โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 200,000 บาท