หนุ่มใหญ่ป่วยความดันสูง ขับรถกระบะตู้ทึบขนส่งสินค้า โทร.บอกเมียว่าแขนขายกไม่ขึ้นและหายใจไม่ออก ก่อนเสียชีวิตภายในรถริมถนนเลียบคลองห้า หลังวัดมูลจินดาราม
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 64 พ.ต.ท.ภูมเรศ อินทรคง สารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์จอดอยู่บริเวณถนนเลียบคลองห้า หลังวัดมูลจินดาราม หมู่ 3 ต.บึงยีโถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งไปที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร รพ.ธัญบุรี อาสามูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน บล 434 พระนครศรีอยุธยา สภาพจอดอยู่ริมถนน ภายในรถพบศพผู้เสียชีวิตชายทราบชื่อ คือ นายยศพล ถึงศรีปั้น อายุ 45 ปี ที่อยู่ 2/6 หมู่ 3 ต.บ้านหีบ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา นอนฟุบคว่ำหน้าตัวเอียงไปเบาะนั่งด้านซ้าย ตรวจสอบเบื้องต้นเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ
ชาวบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เล่าว่า เห็นรถคันนี้มาจอดเร่งเครื่องยนต์ นึกว่ารถเครื่องคงขัดข้อง และคงจะรอเพื่อน หรือรถบริษัทมาดึง หรือมาลากไป จึงไม่ได้เอะใจอะไรคิด คนขับรถปกติรถพวกนี้จะวิ่งเส้นนี้ประจำ รถเสียก็จะจอดรอรถบริษัทเดียวกันมาลาก รถส่งของจะวิ่งเส้นนี้เยอะมาก เพราะเป็นเส้นทางลัดไม่เสียค่าผ่านทางด่วน ซึ่งมีเพื่อนเขาผ่านมาพบเสียชีวิตในรถ จึงโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน นายวิศรุต ใจรักศิลป์ เจ้าของรถปิกอัพ ให้การว่า ตนเองเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว และได้ว่าจ้างผู้เสียชีวิตเป็นขับรถส่งสินค้าให้วิ่งเป็นซัป ส่งชิ้นส่วนคาซากิ จากวังน้อยไประยอง และเมื่อวานนี้ ทางญาติได้โทร.มาบอกตนว่า ผู้เสียชีวิตขาดการติดต่อไป จึงเปิดจีพีเอสดูว่ารถอยู่ตรงไหน จากนั้นได้ให้ลูกน้องขับรถมาดู ก็พบรถจอดอยู่ริมถนนหลังวัดมูลจินดาราม และโทร.บอกตนเองว่า เจอคนขับนอนฟุบเสียชีวิตอยู่ ซึ่งผู้เสียชีวิตขาดการติดต่อไปตั้งแต่เมื่อคืน ปกติผู้ตายจะกลับถึงบ้านประมาณทุ่มเศษ และตอนนั้นเขายังติดต่อกับแฟนเขาอยู่ ก่อนขาดหายไป ผู้เสียชีวิตนั้นมีโรคประจำตัวความดันสูง
ต่อมาได้มี นางจารีย์ ถึงศรีปั้น อายุ 44 ปี ภรรยากับลูกสาวมาดูศพ เมื่อเห็นนอนเสียชีวิตในรถ ถึงกับร่ำไห้นั่งฟุบกับพื้นถนน ภรรยาเล่าว่า ก่อนจะติดต่อสามีไม่ได้ สามีโทร.มาบอกว่าแขนขายกไม่ขึ้นและหายใจไม่ออก ก่อนจะขาดการติดต่อไป
ทาง พ.ต.ท.ภูมเรศ อินทรคง สารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และร่วมชันสูตรพลิกศพ พร้อมกับแพทย์เวร จึงได้บันทึกภาพในจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิต มอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ (เฉลิมพระเกียรติ) เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้งและจะได้ประสานทางญาติๆ มารับศพนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป