สาวสองสุดช้ำ ถูกหนุ่มติดต่อผ่านแอปหาคู่ตามจีบ ก่อนนัดกันออกเดตเจอตัวจริง ออกอุบายยืมโทรศัพท์มือถือ อ้างโทร.หาพ่อก่อนเดินหนีหาย แถมทิ้งให้จ่ายค่าอาหาร
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพ พร้อมคลิปวิดีโอตามหาชายหนุ่มขโมยโทรศัพท์มือถือ ระบุข้อความว่า “รบกวนเพื่อนๆ ที่นนทบุรีทีนะคะ ใครพอจะคุ้นหรือรู้จักผู้ชายในคลิปที่วงสีแดงบ้างค่ะ พอดีเขาได้ยืมโทรศัพท์เราโทร.แล้วขโมยไปที่ร้านชาบูชิ สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ชั้น 5 เมื่อวาน ใครพอจะเจอหรือรู้จักแจ้งเราทีนะคะพอดีแจ้งความไว้แล้ว”
วันนี้ (15 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ นายปราณันต์ น่วมแม่ อายุ 27 ปี อาชีพค้าขายออนไลน์ ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพชื่อคือ นายภาคิม หรือ นายคิม อายุ 33 ปี ที่รู้จักกันในแอปพลิเคชันหาคู่ ได้ก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone 12 Pro Max พร้อมด้วย บิดค่าอาหารก่อนเดินหลบหนีไป ที่เกิดเหตุภายในร้านชาบูชิ สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ชั้น 5 อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
จากการสอบถาม นายปราณันต์ กล่าวว่า ตนได้คุยกับนายคิม ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 64 จนกระทั่งถึงวันที่ 13 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา นายคิม ผู้ก่อเหตุได้บอกกับตนว่าอยากเจอ และอยากไปเลี้ยงข้าว ซึ่งวันนั้นตนมีนัดสัมภาษณ์งานที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วานพอดี จึงได้ชวนกันไปกินข้าวที่ร้านชาบู ขณะที่กำลังรับประทานอาหาร นายคิม ก็ออกอุบายขอยืมโทรศัพท์ไปโทร.หาพ่อ ตนก็ไม่ได้คิดอะไร จากนั้นนายคิมก็นำโทรศัพท์มือถือมาคืน จากนั้นเวลาผ่านไปไม่นาน นายคิม ก็ขอยืมโทรศัพท์ตนอีกรอบ โดยอ้างว่าโทร.คุยกับพ่อก่อนจะเดินออกจากร้านแล้วหนีหายไป จนกระทั่งตนเห็นท่าทีไม่ดี จึงขอยืมโทรศัพท์พนักงานชาบู เพื่อโทร.หาเบอร์ของตน ปรากฏว่า โทร.ติดแต่ไม่มีใครรับสาย ตนจึงต้องไปขอดูกล้องวงจรปิดภายในห้าง ก็ได้มาเพียงแค่ตอนนายคิม นั่งกินชาบูอยู่ภายในร้านกับตน จากนั้นตนจึงเดินทางนำหลักฐานกล้องวงจรปิดพร้อมด้วยหมวกแก๊ป 1 ใบ ที่นายคิมทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี
นายปราณันต์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนเครียดมาก ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตน ซึ่งตนพึ่งนัดเจอกันครั้งแรก กลับถูกขโมยมือถือและเบี้ยวค่าอาหาร ซึ่งโทรศัพท์ตนพึ่งซื้อมาใช้เพียง 3 เดือนกว่า ตอนนี้ก็ยังคงต้องผ่อนต่อ สุดท้ายจึงอยากฝากถึงนายคิม ว่า ตนให้โอกาสแล้วว่าให้เอามาคืน แต่ก็ไม่มีการติดต่อกลับมา ตอนนี้ตนยืนยันว่า จะดำเนินคดีกับนายคิมให้ถึงที่สุดจะมาขอโทษก็ไม่ยอม เพราะตนได้สูญเสียทุกอย่าง ทั้งเวลาและทรัพย์สิน รวมถึงค่าอาหารที่จ่ายไป อยากให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีกับนายคิมและฝากเตือนถึงผู้ที่กำลังเล่นแอปพลิเคชันหาคู่ว่าให้ระมัดระวังมากขึ้น หรือถ้าเป็นไปได้ก็ให้เลิกเล่น เพราะมีความเสี่ยงสูง
