MGR Online - อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุ หลักเกณฑ์อภัยโทษตามกรอบของกฎหมายและไม่มีการเลือกปฏิบัติ คาดหวังผู้ต้องขังกลับตัวเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม
วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ขอชี้แจงทำความเข้าใจต่อสังคมและประชาชนทั่วไป เรื่อง หลักเกณฑ์การอภัยโทษเป็นการทั่วไปเป็นมาตรการอย่างหนึ่ง เพื่อจูงใจให้ผู้ต้องขังประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัยเรือนจำและพัฒนาพฤตินิสัย เพื่อพร้อมกลับประพฤติตน เป็นพลเมืองดีของสังคม โดยให้ได้รับการอภัยโทษตามความร้ายแรงของประเภทคดี และลดหลั่นกันไปตามชั้น ของนักโทษเด็ดขาด ซึ่งเป็นตามหลักอาชญาวิทยาและทัณฑวิทยา รวมทั้งเป็นหลักการสากลการอภัยโทษ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ เป็นการทั่วไป และเป็นการเฉพาะราย โดยหลักการของการอภัยโทษทุกครั้งจะมีการแบ่งผู้ต้องขัง ออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
นายอายุตม์ เผยว่า 1. กลุ่มผู้ได้รับการปล่อยตัว คือ ผู้ต้องกักขัง, ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ, ผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ ที่เป็นผู้เจ็บป่วย พิการ ชราภาพ, นักโทษเด็ดขาดที่เป็นผู้พิการ เจ็บป่วย ชราภาพ หรือได้รับโทษจำคุกมานานจนใกล้จะพ้นโทษแล้ว (เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี), นักโทษที่ได้รับการพัฒนาพฤตินิสัยจนได้รับการเลื่อนชั้นเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม เหลือโทษไม่เกิน 2 ปี ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับการปล่อยตัวจะต้องเป็นนักโทษตั้งแต่ชั้นกลางขึ้นไป ไม่เป็นผู้กระทำความผิดซ้ำ และไม่เป็นผู้กระทำความผิดอาญาร้ายแรง เช่น ปล้น ฆ่า ข่มขืน คดีทุจริตฯ หรือคดียาเสพติดให้โทษ
นายอายุตม์ เผยอีกว่า 2. กลุ่มผู้ได้รับการลดโทษ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ตามความร้ายแรงของคดี และได้รับการลดโทษ ตามชั้นนักโทษเด็ดขาด ประกอบด้วย คดีอาญาทั่วไป ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน 2 จนถึงชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 5, คดีอาญาร้ายแรงตามบัญชีท้าย พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน 3 จนถึงชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 6, คดียาเสพติดรายย่อย ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน 5 จนถึงชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 8 และ คดียาเสพติดรายใหญ่ (ต้องได้รับโทษจำคุกมาระยะหนึ่งแล้ว โดยจะไม่ได้อภัยโทษในครั้งแรก) ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน 6 จนถึงชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 9
“3. กลุ่มผู้ไม่ได้รับการอภัยโทษ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ นักโทษเด็ดขาดประหารชีวิตที่เคยได้รับการลดโทษแล้ว, นักโทษคดียาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งได้รับโทษจำคุกมาไม่นาน, ผู้กระทำความผิดซ้ำที่ไม่ใช่นักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม และ นักโทษชั้นต้องปรับปรุงหรือชั้นต้องปรับปรุงมาก หรือกระทำความผิดอาญาร้ายแรง เช่น ฆ่า ข่มขืน จึงถูกจัดเป็นชั้นต้องปรับปรุงมาก หรือกระทำผิดระเบียบวินัยเรือนจำ จึงถูกลงโทษลดชั้น”
นายอายุตม์ เผยต่อว่า โดยในการตรากฎหมายครั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้คำนึงถึงสัดส่วนในการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาล จึงได้มีการเสนอหลักการใหม่ ในส่วนของผู้ได้รับการพักการลงโทษ หรือลดวันต้องโทษจำคุก จากเดิมได้รับการปล่อยตัวไปในทุกกรณี เป็นให้ได้รับการลดโทษที่เหลืออยู่ และลดระยะเวลาคุมประพฤติลงครึ่งหนึ่ง ยกเว้นคนเจ็บป่วย พิการ ชราภาพ ให้ได้รับการปล่อยตัวไปเช่นเดียวกับนักโทษเด็ดขาด
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ขอให้สังคมและประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และจะให้การดูแลผู้ต้องขังทุกคนด้วยความเสมอภาค เท่าเทียม ไม่มีการเลือกปฏิบัติ หรือให้สิทธิประโยชน์ต่อผู้ต้องขังกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ พร้อมให้โอกาสแก่ผู้กระทำความผิดได้กลับตนเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม