xs
xsm
sm
md
lg

เปิดลับ แก๊งค้ายาฯ ฟอกเงินรูปแบบใหม่ เป็นน้ำมัน และทองคำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 7 ธ.ค.64 นำเสนอรายงานพิเศษ เปิดลับ แก๊งค้ายาฯ ฟอกเงินรูปแบบใหม่ เป็นน้ำมัน และทองคำ



สถิติการปราบปรามยาเสพติดของประเทศไทย บอกให้ทราบว่าไทยไม่เคยเอาชนะขบวนการค้ายาเสพติดได้อย่างเด็ดขาด

ทุกวันนี้ ขบวนการค้ายาเสพติด ยังมีศักยภาพสูงมาก ในการลำเลียงยาข้ามแดนทีละเที่ยว เป็นล็อตใหญ่ แล้วสามารถขนส่งยา เล็ดลอดผ่านด่านตรวจ ลงมาถึงปลายทางกรุงเทพฯ

ช่องทางสำคัญของแก๊งยาเสพติดรายใหญ่ คือ อ.แม่สอด จ.ตาก ตรงนี้เป็นพื้นที่อิทธิพลของนักค้ายาไทยนามว่า “หนูเฉิน” หรือชื่อจริง นายฐาปนันท์ ธรรมรัตน์ธาดา

หนูเฉินเคยถูกจับกุมพร้อมของกลางยาเสพติด 2 หมื่นเม็ด เมื่อปี 2558 แต่พอได้ประกันตัว เขาก็หนีประกันข้ามไปฝั่งเมียนมาร์ ผ่านช่องทางธรรมชาติที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ไปซุกใต้อิทธิพลของ “อายี่” นักค้ายาเสพติดชาวพม่า ซึ่งมีคฤหาสน์อยู่ที่ อ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์

ต่อมา หนูเฉินก็ก้าวขึ้นมาเป็นนักค้ายารายใหญ่ ทำหน้าที่ ตัวกลางใหญ่ ให้ยาเสพติดจากฝั่งเมียนมาร์ ข้ามสู่ฝั่งไทยทางแม่สอด แล้วลำเลียงต่อถึงกรุงเทพฯ และนนทบุรี

โดยฝั่งเมียนมาร์ตรงข้ามแม่สอด เป็นเขตอิทธิพลของกะเหรี่ยง กลุ่มชนกลุ่มน้อยที่ทั้งชีวิตคุ้นชินกับการรบ จึงมี ความต้องการเงินเพื่อพัฒนาบ้านเมือง และจัดซื้ออาวุธสงคราม เป็นแรงผลักดันให้กะเหรี่ยง โดดร่วมวงจรค้ายาเสพติด

โดยหนูเฉิน ประสานผ่านตลอด ทั้งกะเหรี่ยง และทั้งเจ้าหน้าที่ไทย จนนำยาเสพติดผ่านข้ามแดนได้ทีละล็อตใหญ่

วิธีการลำเลียงยาจากชายแดนมาถึงปลายทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แก๊งหนูเฉินจะใช้ “ม้าวิ่ง” ซึ่งก็คือคนที่พร้อมจะเสี่ยงติดคุกหัวโต แลกกับค่าจ้างแพงๆ ขับรถนำยาเสพติดผ่านด่านต่างๆ มาตามทางหลวง

แก๊งยาหนูเฉิน จะจัดการดัดแปลงรถและซุกซ่อนยาไว้อย่างแนบเนียน เมื่อพร้อมแล้ว ก็เรียก “ม้าวิ่ง” มาขับรถไป

บางครั้งมีการระดม “ม้าวิ่ง” มาขับรถขนยาพร้อมกัน 10-20 คันเลยทีเดียว

เมื่อรถไปถึงจุดหมายที่กำหนดไว้ “ม้าวิ่ง” จะจอดทิ้งรถ พร้อมซุกกุญแจรถไว้ “ม้าวิ่ง” ผลัดต่อไป จะมาค้นกุญแจแล้วขับต่อ เป็นการตัดตอนเป็นทอดๆ จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางสุดท้าย ซึ่งมักเป็นโกดังปิดลับ

มีวิธีการขนส่งที่มีประสิทธิภาพอย่างเดียวไม่พอ แก๊งหนูเฉินยังมีวิธีการชำระเงินค่ายาเสพติดกันที่แนบเนียน ยากแก่การตรวจตราของทางการไทยด้วย

วิธีดั้งเดิมที่เคยใช้กันของแก๊งนี้ คือการประกาศลงเว็บไซต์ทางฝั่งเมียนมาร์ รับสมัครคนรับโอนเงินจากฝั่งไทย มีส่วนแบ่งให้อย่างงามถึง 20 เปอร์เซนต์เป็นอย่างต่ำ

ต่อมามีการพัฒนาให้ซับซ้อนมากขึ้น ด้วยการรับชำระเงินเป็นทองคำแท่ง โดยทองคำแท่งหนัก 1 กก. มีมูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาท

จะมีการใช้คนจำนวนมาก โอนเงินด้วยเครื่อง ATM ให้กับร้านทองใหญ่ เป็นค่าทองคำแท่ง แต่จะโอนครั้งละไม่มาก เช่น ครั้งละ 9 หมื่นบาท เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ โอนแล้วโอนอีก กระหน่ำโอนจนกว่าจะครบยอดที่ต้องการ

จากนั้น ร้านทองใหญ่ก็สั่งการร้านทองสาขาแถวชายแดน ทองคำแท่งจะมีคนในแก๊งยามารับ เอาข้ามไปยังผู้รับทางฝั่งเมียนมาร์ ซึ่งแท้จริง ทองคำแท่งเหล่านั้น คือค่ายาเสพติด ที่ผู้ซื้อชำระให้ผู้ขาย

นอกจากทองคำแล้ว ยังมีการจ่ายค่ายาเสพติดด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง

ขั้นตอนคือ สั่งซื้อน้ำมันจำนวนมากจากบริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ ซึ่งได้รับความสะดวก ไม่ต้องมีเอกสาร LC ในการซื้อขายน้ำมันแต่อย่างใด

และน้ำมันที่ซื้อขายกันนี้ ก็มีราคาถูกกว่าราคาขายปลีกตามปั๊มแทบครึ่งต่อครึ่ง เนื่องจากไม่ต้องเสียเงินเก็บเข้ารัฐ 5 รายการ อย่างที่น้ำมันค้าปลีกในประเทศต้องจ่าย โดยเฉพาะภาษีสรรพสามิต ที่เรียกเก็บหนักถึง 5.99 บาทต่อลิตร

น้ำมันมหาศาลเหล่านี้ จะถูกส่งข้ามไปที่ฝั่งเมียนมาร์ แล้วมีการชำแหละน้ำมันผ่านการขายปลีกทำกำไรจากชาวบ้านที่นั่นอีกทอด แท้จริงแล้ว ก็เป็นการฟอกเงินค้ายาผ่านน้ำมันนั่นเอง

ถ้าหน่วยปราบยาเสพติดของไทย ไม่สามารถสกัดเส้นทางการส่งเงินค่ายาเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะวิธีโอนข้ามประเทศ ทองคำ และน้ำมัน ก็ยากจะหยุดแก๊งค้ายาของหนูเฉิน และแก๊งอื่นได้


กำลังโหลดความคิดเห็น