ตำรวจ ศพดส.ตร.แถลงจับกุม 5 นายหน้าหญิงหลอกลวงสาวชาวไทยไปทำงานร้านนวดในดูไบ อ้างได้ค่าตอบแทนสูง สุดท้ายถูกบังคับค้าประเวณี ให้รับแขก 7 คนต่อวัน แถมไม่ได้เงิน
จากกรณีที่ตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ว่า มีคนไทยถูกหลอกลวงและบังคับให้ค้าประเวณีที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และได้ประสานงานร่วมกับหน่วยราชการไทยที่เกี่ยวข้องและทางการดูไบ เข้าให้ความช่วยเหลือพาตัวกลับประเทศ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 4 สน.ทุ่งสองห้อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนศูนย์บัญชาการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน, นางภิญญา จำรูญศาสตร์ ผู้อำนวยการกองต่อต้านการค้ามนุษย์ และเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ศพดส.ตร. ร่วมแถลงข่าวจับกุม 5 เอเยนต์หลอกลวงคนไทยไปบังคับค้าประเวณี ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คือ นางวีณา เพิ่งเจริญ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1771/2564 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 64, น.ส.รัตนกร แก้วจัตุรัส อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1769/2564 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 64, น.ส.จันทร์จิรา วงษ์ตัน อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1768/2564 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 64, น.ส.ปภัฏชมณ ศรีสว่าง อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1777/2564 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 64 และ น.ส.ปาลิดา เจนกาล อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1876/2564 ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน 64 ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์” จับกุม นางวีณา ได้ที่กรุงเทพฯ จับกุม น.ส.รัตนกร และ น.ส.จันทร์จิรา ได้ที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จับกุม น.ส.ปภัฏชมณ ได้ที่ อ.บึงนาราง จ.พิจิตร และจับกุม น.ส.ปาลิดา ได้ที่ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตำรวจได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีผ่านช่องทางออนไลน์ จึงได้ประสานงานร่วมกับสำนักงานความมั่นคงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสามารถช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอดภัยจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังจับกุม น.ส.รัศมี ทาทอง อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1770/2564 วันที่ 25 ตุลาคม 64 เป็นแม่เล้าในเครือข่ายดังกล่าว และถูกหมายแดงจากตำรวจสากล ขณะนี้ได้รับโทษทางกฎหมายอยู่ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอยู่ระหว่างรอส่งตัวมารับโทษต่อที่ประเทศไทย ซึ่งจากการขยายผลเครือข่ายก็สามารถจับกุมผู้กระทำผิดเพิ่มได้ 5 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า ตำรวจมีหลักฐานว่า กลุ่มนี้มีพฤติการณ์เป็นนายหน้าหลอกลวงคนชักชวนคนไทยผ่านทางเฟซบุ๊กให้ไปทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยอ้างว่าจะได้ค่าตอบแทนที่สูงเพื่อให้เหยื่อสนใจและยินยอมเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ เมื่อเดินทางไปถึงกลับไม่พบได้ทำงานตามที่ตกลงกันไว้แต่ถูกบังคับให้ค้าประเวณีในสถานที่ที่ตั้งร้านนวดบังหน้า ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา พบมีคนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานค้าประเวณีที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศไทยมากถึง 300-400 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกหลอกให้ไปทำงานร้านนวด และถูกบังคับให้ค้าประเวณีต้องรับแขกมากถึง 7 คนต่อวัน แต่ไม่ได้ค่าตอบแทน
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตำรวจได้เข้าค้น 3 เมืองหลักในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คือ อัจมาน, ดูไบ และรัฐราสอัลไคมาห์ สามารถช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกไปบังคับค้าประเวณีได้จำนวนหนึ่ง และภายในสัปดาห์นี้จะเร่งประสานความช่วยเหลือกลับมาทั้งหมด นอกจากนี้ ยังพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นหน่วยใด จะรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบไม่เกินสัปดาห์นี้ถึงจะรู้ผล และหากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะไม่มีการปกป้องพร้อมดำเนินคดีทันทีไม่มีข้อยกเว้น พร้อมฝากถึงบุคคลที่ยังทำในลักษณะนี้ ขอให้หยุดการกระทำ มิฉะนั้นจะถูกจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม แนวทางจากนี้ไปตำรวจจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการหลอกลวงคนไทยไปทำงานค้าประเวณี ซึ่งพบว่ายังมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานยังประเทศเกาหลีใต้ และกัมพูชา อีกด้วย
