MGR Online - บช.ก.บุกทลายเครือข่ายไนจีเรียค้าโคเคนข้ามชาติ ยึดของกลางมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เผยแต่งงานหญิงไทยสร้างเครือข่าย ลักลอบนำของเข้าโดยซุกกระเป๋าสัมภาระหรือกลืนลงท้อง ส่งขายให้ไฮโซ คนบันเทิงตามสถานบริการ
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.จักรี กันธิยะ สว.กก.1 บก.ป. พ.ต.ต.อัคนี ณ บางช้าง สว.กก.4 บก.ป. สนธิกำลังร่วมกับ กก.สืบสวน บก.ตม.1 เจ้าหน้าที่ บก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ทหาร กวาดล้างจับกุมกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายแดเนียล ออนเยกาชุควู หรือ โทนี่ อายุ 40 ปี นายอัลเฟรด ดิไวน์ ชิก้า หรือ ชาร์ลี อายุ 38 ปี นายกาเบรียล โอบิดิมม่า โอบีเชฟู หรือ โจ อายุ 37 ปี โดยทั้ง 3 คนเป็นชาวไนจีเรีย และ น.ส.กันยารัตน์ หาวะโคตร หรือ โอ๋ อายุ 43 ปี นายอัษฎาวุท มานโสม อายุ 25 ปี สองผู้ต้องหาชาวไทย พร้อมตรวจยึดโคเคน น้ำหนักรวม 413.29 กรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายแดเนียล นายอัลเฟรด และ นายกาเบรียล 3 ผู้ต้องหาขาวไนจีเรีย ได้เดินเข้ามาภายในประเทศไทยด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งถูกกฎหมายและแบบลักลอบเข้ามา จากนั้นก็ทำทีตีสนิทแต่งงานกับหญิงสาวชาวไทยเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทำธุรกิจผิดกฎหมาย หรือ ตั้งเครือข่ายค้าโคเคนในไทย มีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการตั้งแต่ลักลอบนำโคเคนเข้ามาในประเทศและนำโคเคนไปกระจายขายต่อให้กับกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ ตามสถานบันเทิงต่างๆ ในพื้นที่ กทม. โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนในวงการบันเทิง ไฮโซ และคนมีชื่อเสียงอีกหลายคน
สำหรับวิธีการนำโคเคนเข้ามาของกลุ่มผู้ต้องหาชาวต่างชาติเหล่านี้จะทำทีเดินทางเข้ามาภายในประเทศในลักษณะของนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทาง ซึ่งโคเคนดังกล่าวจะถูกซุกซ่อนมาตามกระเป๋าสัมภาระ หรือ ซ่อนตามตัวบุคคลด้วยการกลืนโคเคนลงช่องท้องตัวเองเพื่อหลบซ่อนการถูกตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่สนามบิน และในบางกรณีก็จะใช้หญิงไทยเป็นเครื่องมือในการลักลอบนำเข้าโคเคนอีกด้วย
จากพฤติกรรมดังกล่าวจึงถือว่าเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมข้ามชาติอีกประเภทหนึ่งด้วยเหตุนี้ทาง พล.ต.ท.จิรภพ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมบูรณาการกำลังร่วมกันวางแผนเข้าตรวจค้น ล่อซื้อ จับกุม เพื่อกวาดล้างขบวนการดังกล่าวให้สิ้นซาก จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย จำนวน 5 รายตามพื้นที่ต่างๆ ย่านพระโขนง และคลองตัน กทม.
สอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า ทำมานานประมาณ 4-5 ปี เนื่องจากไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งเงินรายได้ส่วนใหญ่จึงมาจากการค้ายาเสพติด เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” นอกจากนี้ ผู้ต้องหาที่เป็นชาวไนจีเรียทั้ง 3 ราย ยังถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่ง บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป