ผู้บังคับการ หวัง เจียลู่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เผยแพร่บทความ “การปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์หลังยุคโควิด-19 ไต้หวันมีส่วนร่วมอยู่เสมอ” โดยมีเนื้อหาดังนี้
ขณะที่เราใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเพื่อปรับตัวกับการใช้ชีวิตแบบป้องกันโรค กลุ่มอาชญากรรมก็ได้ใช้จุดอ่อนด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตก่ออาชญากรรมหลายรูปแบบ ดังนั้นความปลอดภัยของไซเบอร์หลังยุคโควิด-19 จะกลายเป็นประเด็นที่สำคัญที่ทุกประเทศต้องรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากอาชญากรรมที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตมีลักษณะที่ไร้พรมแดน ผู้กระทำ เหยื่อ สถานที่ลงมือกระทำอาจจะอยู่คนละประเทศ สิ่งที่พบเห็นบ่อยที่สุดก็คือการใช้อินเทอร์เน็ตกับเทคโนโลยีการสื่อสารในการหลอกเงินทางโทรศัพท์ มีเพียงความร่วมมือระหว่างประเทศที่จะสามารถจับกลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ไต้หวันจะร่วมมือกับตำรวจนานาประเทศเพื่อปราบปรามอาชญากรรม ป้องกันไม่ให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อ
นอกจากนี้อาชญากรรมไซเบอร์ก็เหมือนโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นประเทศหรือประชาชนทั่วไปก็อาจจะตกเป็นเหยื่อ ดังนั้นการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ก็เหมือนการต่อสู้กับโรคระบาดต้องการความร่วมมือกันระหว่างตำรวจจากหลายประเทศ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแบ่งปันข้อมูล เพื่อที่จะห้ามปรามและติดตามได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย
ตำรวจไต้หวันมุ่งมั่นที่จะปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติมาโดยตลอด เช่น เมื่อเดือนมีนาคม 2019 ตำรวจไทยและไต้หวันได้ร่วมมือจับกุมแก๊งค้ามนุษย์, เดือนสิงหาคมจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์
หลอกเงินข้ามชาติ, ปี 2020-2021 จับกุมแก๊งขนส่งยาเสพติดข้ามชาติหลายกลุ่ม กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมไต้หวัน มีหน่วยงานสืบสวนด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะ มีนักสืบสวนอาชญากรรมไซเบอร์ที่เชี่ยวชาญ ยังมีห้องปฏิบัติการอาชญากรรมดิจิตัลที่ได้มาตรฐานสากล อาชญากรรมไซเบอร์ไร้พรมแดน ไต้หวันหวังว่าจะได้ร่วมมือกับนานาชาติเพื่อแบ่งปันประสบการณ์และผลความสำเร็จเฉพาะทางของเรา เพื่อร่วมกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อปี 2017 องค์การตำรวจสากลตั้ง “เป้าหมายการตำรวจทั่วโลก” (The Global Policing Goals) โดยมีพันธกิจที่จะสร้าง “โลกที่ปลอดภัยและยั่งยืน” (a safer and more sustainable world ) ภายใต้พันธกิจนี้ การปราบปรามอาชญากรรมก็เหมือนกับการต่อสู้กับโรคระบาด ไม่ควรที่จะกีดกันหน่วยงานตำรวจหรือประเทศใดไว้ข้างนอก การปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ต้องการความร่วมมือจากนานาประเทศ ไต้หวันต้องการความร่วมมือจากทุกประเทศทั่วโลก ไต้หวันสามารถช่วยประเทศอื่นและยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์ของไต้หวันให้ทั่วโลกรู้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางอินเทอร์เน็ตมีความปลอดภัยมากกว่าเดิม ทั้งนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายอินเทอร์เน็ตไร้พรมแดนอย่างแท้จริง
ในปี 2021 ขณะที่ทั่วโลกกำลังร่วมกันต่อสู้กับโรคระบาด ขอให้สนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมงานประชุมประจำปีขององค์การตำรวจสากลในฐานะผู้สังเกตการณ์และให้ไต้หวันมีส่วนร่วมในงานประชุม กลไกและกิจกรรมอบรมต่างๆที่จัดโดยองค์การตำรวจสากล และขอให้ออกความเห็นเพื่อไต้หวันในงานสากลต่างๆ สนับสนุนไต้หวันมีส่วนร่วมเชิงปฏิบัติในองค์กรระหว่างประเทศและอย่างมีนัยยะ
ขณะที่เราใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเพื่อปรับตัวกับการใช้ชีวิตแบบป้องกันโรค กลุ่มอาชญากรรมก็ได้ใช้จุดอ่อนด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตก่ออาชญากรรมหลายรูปแบบ ดังนั้นความปลอดภัยของไซเบอร์หลังยุคโควิด-19 จะกลายเป็นประเด็นที่สำคัญที่ทุกประเทศต้องรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากอาชญากรรมที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตมีลักษณะที่ไร้พรมแดน ผู้กระทำ เหยื่อ สถานที่ลงมือกระทำอาจจะอยู่คนละประเทศ สิ่งที่พบเห็นบ่อยที่สุดก็คือการใช้อินเทอร์เน็ตกับเทคโนโลยีการสื่อสารในการหลอกเงินทางโทรศัพท์ มีเพียงความร่วมมือระหว่างประเทศที่จะสามารถจับกลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ไต้หวันจะร่วมมือกับตำรวจนานาประเทศเพื่อปราบปรามอาชญากรรม ป้องกันไม่ให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อ
นอกจากนี้อาชญากรรมไซเบอร์ก็เหมือนโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นประเทศหรือประชาชนทั่วไปก็อาจจะตกเป็นเหยื่อ ดังนั้นการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ก็เหมือนการต่อสู้กับโรคระบาดต้องการความร่วมมือกันระหว่างตำรวจจากหลายประเทศ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแบ่งปันข้อมูล เพื่อที่จะห้ามปรามและติดตามได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย
ตำรวจไต้หวันมุ่งมั่นที่จะปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติมาโดยตลอด เช่น เมื่อเดือนมีนาคม 2019 ตำรวจไทยและไต้หวันได้ร่วมมือจับกุมแก๊งค้ามนุษย์, เดือนสิงหาคมจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์
หลอกเงินข้ามชาติ, ปี 2020-2021 จับกุมแก๊งขนส่งยาเสพติดข้ามชาติหลายกลุ่ม กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมไต้หวัน มีหน่วยงานสืบสวนด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะ มีนักสืบสวนอาชญากรรมไซเบอร์ที่เชี่ยวชาญ ยังมีห้องปฏิบัติการอาชญากรรมดิจิตัลที่ได้มาตรฐานสากล อาชญากรรมไซเบอร์ไร้พรมแดน ไต้หวันหวังว่าจะได้ร่วมมือกับนานาชาติเพื่อแบ่งปันประสบการณ์และผลความสำเร็จเฉพาะทางของเรา เพื่อร่วมกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อปี 2017 องค์การตำรวจสากลตั้ง “เป้าหมายการตำรวจทั่วโลก” (The Global Policing Goals) โดยมีพันธกิจที่จะสร้าง “โลกที่ปลอดภัยและยั่งยืน” (a safer and more sustainable world ) ภายใต้พันธกิจนี้ การปราบปรามอาชญากรรมก็เหมือนกับการต่อสู้กับโรคระบาด ไม่ควรที่จะกีดกันหน่วยงานตำรวจหรือประเทศใดไว้ข้างนอก การปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ต้องการความร่วมมือจากนานาประเทศ ไต้หวันต้องการความร่วมมือจากทุกประเทศทั่วโลก ไต้หวันสามารถช่วยประเทศอื่นและยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์ของไต้หวันให้ทั่วโลกรู้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางอินเทอร์เน็ตมีความปลอดภัยมากกว่าเดิม ทั้งนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายอินเทอร์เน็ตไร้พรมแดนอย่างแท้จริง
ในปี 2021 ขณะที่ทั่วโลกกำลังร่วมกันต่อสู้กับโรคระบาด ขอให้สนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมงานประชุมประจำปีขององค์การตำรวจสากลในฐานะผู้สังเกตการณ์และให้ไต้หวันมีส่วนร่วมในงานประชุม กลไกและกิจกรรมอบรมต่างๆที่จัดโดยองค์การตำรวจสากล และขอให้ออกความเห็นเพื่อไต้หวันในงานสากลต่างๆ สนับสนุนไต้หวันมีส่วนร่วมเชิงปฏิบัติในองค์กรระหว่างประเทศและอย่างมีนัยยะ