ยายวัย 66 ปี ตกท่อถูกเหล็กเสียบ เข้าแจ้งความเทศบาลนครนนทบุรี และผู้รับเหมา ก่อสร้างท่อระบายน้ำ ซอยรัตนาธิเบศร์ 22 หลังรับปากตกลงดูแล แต่ไร้เงา ลูกสาวเผยแผลเริ่มเน่า ครอบครัวเครียด หมดเงินรักษา
จากกรณี นางจุฑาทิพย์ พลอยรัตน์ อายุ 66 ปี ขี่จักรยานปั่นกลับจากซื้อของเสียหลักล้มเหล็กเสียบติดขา บริเวณท่อระบายน้ำ ที่กำลังก่อสร้าง ภายในซอยรัตนาธิเบศร์ 22 แยก 15 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ได้ใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลือก่อนนำตัวส่ง รพ.เหตุเกิดวันที่ 20 พ.ย. 64 เวลาประมาณ 07.30 น.
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. นายเกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) ประธานชมรมทนายความจิตอาสา พร้อมด้วย นางจุฑาทิพย์ พลอยรัตน์ อายุ 66 ปี และ น.ส.จันทร์ฉาย พลอยรัตน์ อายุ 41 ปี ลูกสาว ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางเทศบาลนครนนทบุรี และบริษัทผู้รับเหมา
นางจุฑาทิพย์ กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกเหนื่อย หลังจากปั่นจักรยานตกท่อ ได้รับบาดเจ็บ ทุกคืนต้องนอนโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว เวรกรรมอะไรของตนที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ตนเป็นชาวบ้านธรรมดาจะไปเรียกร้องอะไรก็คงไม่ได้ อยากจะขอความเป็นธรรม ขอค่ารักษาพยาบาลให้ตน เคยคิดฆ่าตัวตาย เพราะเครียดมาก ตนเป็นผู้น้อย ไม่รู้เรื่องอะไร จะให้ไปขอความช่วยเหลือที่ใคร ไม่อยากจะอยู่ต่อ สงสารลูก และครอบครัวที่ต้องมานั่งดูแลตน แต่ก่อนจากดูแลตัวเองได้ ทำงานได้ ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เลย และรายได้ก็หายไปหมด อยากให้หน่วยงานเข้ามารับผิดชอบ
น.ส.จันทร์ฉาย ลูกสาว กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกเครียด เพราะตนทำงานอยู่ต้องลางานมา อยากให้เรื่องจบ เพราะเรื่องนี้คุยกันได้ แต่ตั้งแต่มีเหตุมา ฝั่งตนเป็นผู้เดินเรื่องเองตลอด ฝั่งเขาไม่เคยโทร.มาหาเราเลย มีแต่บอกว่าจะมีคนติดต่อมาแต่ก็เงียบ ซึ่งตนเป็นชาวบ้านธรรมดา ทำไรก็ไม่ได้ สิ่งที่ตนเรียกร้องไปก็ไม่ได้มากมายหรือเกินเลย เพราะทุกอย่างมีหลักฐาน หลังจากเกิดเหตุตนได้รีบเข้ามาแจ้งความ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ เนื่องจากบอกว่าไม่มีคู่กรณี จะแจ้งความฝ่ายเดียวไม่ได้ และไล่กลับบ้าน ทำให้ตนรู้สึกเครียดหนักกว่าเดิม เพราะหลังจากเกิดเหตุ ตนถือแท่งเหล็กที่เสียบขาแม่ตน พกมาที่โรงพักด้วย ในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ตนจึงตัดสินใจกลับ พอมาพูดกับตนแบบนี้ก็คิดว่าไม่ได้ความเป็นธรรม ซึ่งแม่ตนก็ได้รับความเดือดร้อน ทำไมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้ง มาวันนี้ตนอยากได้รับความเป็นธรรมในเรื่องค่ารักษาพยาบาล ทุกวันนี้เดินเรื่องก็ต้องมีค่าใช้จ่าย เรื่องจะได้จบไป จะได้หันกลับมาดูแลแม่และรักษาแม่ไปโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้จะได้หายไวๆ ไม่กี่วันแม่คิดฆ่าตัวตาย ก็รู้สึกแย่ ในโซเชียลก็มี 2 ความคิด เห็นบ้างมีก็เครียด อยากให้ทุกคนลองหันมาดูบ้าง ตอนนี้แผลแม่เริ่มเป็นหนองออกมาแล้ว เพราะล้างแผลผิดวิธี ในภายหน้าถ้าแม่เป็นหนักกว่านี้ จะทำยังไง จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบเลย แค่ให้ค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นบอกจะนัดคุย แต่เงียบหายไป โทร.ไปก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน
ทางด้าน ทนายโป้ง กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้รับการประสานร้องเรียนจากลูกสาวคุณป้า ที่ขี่รถ จยย.ตกท่อในซอยรัตนาธิเบศร์ 22 เหตุการณ์ผ่านมาหลายวันแล้ว ผู้เสียหายกังวล เพราะทางเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องหายไป เนื่องจากบอกว่าจะมีการเยียวยาแต่เงียบหายไป ซึ่งผู้เสียหายไม่เคยเข้าแจ้วความ เนื่องจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความรอบแรก หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ อ้างว่า ไม่มีคู่กรณี วันนี้ตนจึงพาผู้เสียหายมาที่โรงพักมาแจ้งความ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ในข้อหากระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายทางกายและจิตใจ จะทำหนังสือส่งตัวคุณป้าไปที่โรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์นิติเวชตรวจพิสูจน์บาดแผลว่ามีอาการเจ็บป่วยอย่างไรบ้าง ถ้าเจ็บป่วยสาหัส จะมีข้อหาเพิ่ม เป็นการประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งจะมีโทษหนัก จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้อง ทางเทศบาลหรือผู้รับเหมา ให้มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนเรื่องเงินเยียวยาที่ให้มาก่อน 10,000 บาท เป็นการเยียวยาเบื้องต้น ไม่เกี่ยวข้องกับรูปคดี อยากฝากถึงทางคู่กรณีให้ออกมารับผิดชอบ ในเรื่องการเยียวยาและรักษาค่าพยาบาล ตอนนี้ป้าต้องเดินทางไปล้างแผลทุกวันทำให้มีค่าใช้จ่าย เรื่องการเดินทางก็ยากลำบาก และรายได้หายเพราะปกติป้ามีรายได้วันละ 300 บาท จึงอยากวิงวอนให้ผู้เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบ