MGR Online - ผบ.ตร.เผย ตำรวจเห็นแย้งอัยการกรณีสั่งไม่ฟ้อง “เสี่ยโจ้” ในคดีฟอกเงิน ตรวจสอบพบมีคดีติดตัวเพียบถึง 14 คดี ลั่นต้องตามจับตัวให้ได้ ยอมรับกรณีหมายจับล่องหนเป็นไปตามที่ศาลชี้แจง สั่งสอบวินัยตำรวจที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (17 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีไม่พบหมายจับ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ เสี่ยโจ้ ปัตตานี ในคดีค้างเก่าของศาลจังหวัดปัตตานี ว่า ทราบจากศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) เมื่อคืนนี้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.9) ได้รายงานมาแล้ว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าตนได้เรียกเข้ามาสอบถาม เรื่องที่ให้ภาค 9 รายงานกรณีได้รับหรือไม่ได้รับหมาย ทางศปก.ตร.ที่ได้ออกวิทยุสั่งไปในนามของผมจะประมวลเสนอผ่านจเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ขึ้นมา เบื้องต้นจากการพูดคุยกันอาจมีเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในข่ายที่จะต้องถูกสอบสวนข้อเท็จจริงทางวินัย ซึ่งทาง จตช.จะพิจารณาประมวลเสนอมาว่ามีใครบ้าง ในชั้นต้นเชื่อว่ามีการส่งหมายเป็นไปตามศาลได้ชี้แจงจริง และมีเจ้าหน้าที่รับไว้ แต่จะดำเนินการเป็นไปตามระเบียบหรือไม่อย่างไรเป็นเรื่องของรายละเอียดที่ต้องสอบวินัยกันไป
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ได้สั่งให้สำนักงานกฎหมายและคดี ไปสำรวจมาว่า คดีที่นายสหชัยเข้าไปเกี่ยวข้องมีกี่เรื่อง ซึ่งรายงานอย่างไม่เป็นทางการที่ได้พูดคุยในเบื้องต้นมีอยู่ประมาณ 14 คดี สอบสวนเสร็จแล้ว 11 คดี อีก 3 เรื่อง คือ 1. การสั่งสอบเพิ่มเติมเรื่องการค้าน้ำมันหมื่นกว่ารายการ ซึ่งอยู่ในความดูแลของศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง หลังจากนี้จะไปเร่งรัดว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ทั้งนี้ เข้าใจว่า มีรายละเอียดเยอะกว่าหนึ่งหมื่นรายการ ได้ทำไปถึงไหนแล้ว ติดปัญหาอะไรบ้าง 2. เรื่องการฟอกเงินซึ่งพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และเรื่องการสั่งไม่ฟ้องส่งมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อเดือนกันยายนปีนี้ โดยวันที่ 11 พ.ย. ทาง พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบ.ตร. ก็ได้มีความเห็นแย้งไป 3. คดีที่อยู่ในอำนาจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เพราะฉะนั้น 3 สำนวนที่เราตรวจสอบถึงวันนี้ ส่วนอีก 11 เรื่องเสร็จไปแล้ว ส่วนหมายจับที่ยังใช้ได้คือหมายจับของศาลอุทธรณ์จังหวัดปัตตานีที่บังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาที่สั่งจำคุก 1 ปี 9 เดือน ก็ต้องไปติดตามจับกุมตัวมาให้ได้ จะไปไหนก็ต้องติดตามจับ
“อยากให้เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นการบกพร่องโดยตัวบุคคล ไม่ใช่หน่วยงาน ไม่ใช่ภาพรวมของตำรวจ จะเห็นว่า เรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งใจที่จะทำให้มันกระจ่าง เพราะว่าตอนนี้เราปราบปรามน้ำมันเถื่อน เราก็จับมาโดยตลอด ใครที่เกี่ยวข้องจะเป็นอดีตเก่าอะไรแค่ไหนเราก็จับ เรื่องที่ผ่านๆ มา จะกี่ปีกี่ชาติก็ต้องไปรื้อมาดูให้เรียบร้อย ผมรับปากว่าจะทำให้เรียบร้อย จะเป็นอดีตไหนไม่รู้ ก็ต้องทำให้เรียบร้อยให้ปรากฏข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ใครผิดก็ลงโทษไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร รายละเอียดก็บอกไปแล้วว่าหน่วยที่เกี่ยวข้องก็ต้องลงไปและให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชนเป็นครั้งคราว อย่าให้ไปวิจารณ์กันเอาเอง เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิด” ผบ.ตร.กล่าวและว่า เชื่อว่าในวันที่ 18 พ.ย. ที่ บช.ภ.9 จะมีรายละเอียดแถลงให้สื่อมวลชนทราบ