สองตายายชาวสวนบริจาคเงิน 1 ล้านบาท สร้างอุโบสถ ถูก ไวยาวัจกร วัดศรีราษฎร์ ฟ้อง ฐาน “ละเมิด หมิ่นประมาทฯ” หลังของเงินบริจาคคืนหลังสร้างอุโบสถไม่เสร็จ
วันนี้ (15 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่วัดศรีราษฎร์ หมู่ 8 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสาลงพื้นที่ พบกับ นายนพ และ นางอำไพ จิตรรักมั่น สองสามีภรรยาชาวสวน ผู้ใจบุญที่บริจาคเงิน 1 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ ให้กับวัดศรีราษฎร์ เพื่อสร้างอุโบสถตามที่ตั้งใจไว้ สุดท้ายไม่สามารถสร้างได้จึงได้เอ่ยปากขอเงินคืน จำนวน 1 ล้าน จาก นายอานนท์ณัฎฐ์ ไวยาวัจกร ของวัดกับพวก และมีการส่งมอบเงินคืนให้กันเป็นที่เรียบร้อยที่ สภ.บางใหญ่ ต่อหน้าพนักงานสอบสวนในวันนั้น โดยสองสามี ภรรยาชาวสวน ได้รับคำยืนยันด้วยวาจาจากคู่กรณีว่าจะไม่ติดใจเอาความในเรื่องที่เกิดขึ้น
คุณตานพ เปิดเผยด้วยเสียงเศร้าสร้อย แต่แล้วจู่ๆ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 64 ตนและภรรยา กลับได้รับหมายศาลจังหวัดนนทบุรี คดีหมายเลขดำที่ พ.24 34/2564 ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน 64 โดยตนทั้งสองถูกนายอานนท์ณัฎฐ์ พร้อมกับพวกอีก 3 คน ยื่นฟ้อง ศาลในฐานความผิด “ละเมิด หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ให้ชดใช้ค่าเสื่อมเสียชื่อเสียง” เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท โดยศาลนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์วันที่ 24 มกราคม 65 ตนและภรรยารู้สึกเสียใจและตกใจเป็นอย่างมาก เราทั้งสองมีจิตใจตั้งมั่นที่จะทำบุญ ตั้งแต่แรกเมื่ออุโบสถหลังใหม่ ไม่สามารถสร้างได้ เราสองคนได้เงินคืนมา 1 ล้านบาท ก็ได้นำเงินจำนวน 500,000 บาท มาบูรณะอุโบสถหลังเก่าของวัดศรีราษฎร์ จนเสร็จสิ้นเรียบร้อย ส่วนอีก 400,000 บาท ก็นำไปทำบุญที่วัดลาดปลาเค้า จังหวัดสุพรรณบุรี ตนและภรรยาตั้งใจทำบุญเพื่อสร้างกุศลจริงๆ ในบั้นปลายชีวิต แต่กลับต้องมาเจอย้อนเกล็ดกรณีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย รู้สึกเสียใจในเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เราเป็นชาวสวน ทำสวนกันมาชั่วชีวิต กลับต้องมาเจอ เหตุการณ์แบบนี้ ก็รู้สึกเสียใจและยืนยันในความตั้งใจ บริสุทธิ์ใจ ที่จะทำบุญไม่เคยคิดจะไปสร้างศัตรูให้ร้ายใคร หรือต่อสู้ใดๆ กับใครได้ แต่สุดท้าย กลับถูกคู่กรณีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในเรื่องนี้ซึ่งตนมองว่า ไม่เป็นธรรมกับครอบครัวตนเลย
ขณะที่ นายบุญปลอด ยมยะมาลี อายุ 64 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ได้นำหลักฐานเป็นคลิปที่นายอานนท์ณัฎฐ์ กำลังพูดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 64 หลังจากมีการยับยั้งการสร้างอุโบสถ นายอานนท์ ได้ประกาศในที่ประชุม ว่า ไม่สามารถทำการก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ได้ จึงดำเนินการขอยุติการก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ และจะนำเงินคืนกับเจ้าของเงินที่ทำบุญทั้งหมดทุกคน ผ่านระยะเวลามานานพอสมควร คุณตามานพ จิตรรักมั่น กับคุณยายอำไพ จิตรรักมั่น ได้ไปทวงถามได้รับคำปฏิเสธ จนกระทั่ง ผ่านไปหลายครั้งจนครั้งที่ 3 ตายายได้ไปทวงถามอีก นายอานนท์ จึงได้ตอบว่าถ้าอยากได้เงินให้ไปแจ้งความ จากการสอบถามยังมีคนอื่นๆอีกนอกจากตากับยายที่บริจาคยอดเงินหลายล้านบาทในบัญชี และผู้บริจาคทุกคนต้องการเงินคืนเพราะไม่มีการสร้างอุโบสถตามที่พูดไว้
ทางด้าน ทนายโป้ง กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบถามข้อเท็จจริง กับคุณตาคุณยายและชาวบ้านที่อยู่บริเวณวัดที่รู้เหตุการณ์ความเป็นมาเป็นไป เรื่องนี้ตนจะรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารพยานบุคคลที่มีอยู่ทั้งหมด เรียบเรียงเป็นคำให้การเพื่อเป็นการต่อสู้คดีให้กับคุณตาคุณยาย เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับทั้งสองคนว่าไม่ได้กระทำความผิดตามที่ทางโจทก์กล่าวหาฟ้องร้องคดีมา เบื้องต้นมีความมั่นใจว่าข้อมูลข้อเท็จจริงข้อกฎหมายพยานหลักฐานและพยานบุคคลวัตถุพยานต่างๆ ที่มีอยู่เพียงพอที่จะต่อสู้คดีเพื่อจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับคุณตาคุณยาย ว่าไม่ได้กระทำผิดเหมือนที่ถูกฟ้องร้องกล่าวหามา