โฆษกอัยการแถลงฟ้องแล้ว อดีต ผกก.โจ้ กับลูกน้องใช้ถุงดำคลุมหัวทรมานเหยื่อ 4 ข้อหาหนัก ฆ่าโดยทารุณโหดร้าย โทษสูงสุดประหารชีวิตพร้อมค้านประกันโจ้กับลูกน้อง ชี้คดีอุกฉกรรจ์ เกรงยุ่งเหยิงพยาน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (15 พ.ย.) ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษก และ นายวรินทร สาสนัส รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ร่วมแถลงข่าว ความคืบหน้าการสั่งฟ้องคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวกรวม 7 คน คดีร่วมกันใช้ถุงดำคลุมศีรษะ นายจิระพงษ์ หรือ มาวิน ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เสียชีวิตใน “บ้านกาแฟ” ภายใน สภ.เมืองนครสวรรค์
โดย นายอิทธิพร เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้อัยการได้นำสำนวนยื่นฟ้องคดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ โจ้ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ กับพวกรวม 7 คน เป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้วรวม 4 ข้อหาในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
และร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 157, 288, 289(5), 309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4, 172 โดยคดีดังกล่าวอัยการสูงสุดเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาและมีคำสั่งตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา 143 วรรคท้าย
สืบเนื่องจากนายจิระพงษ์ หรือ มาวิน ธนะพัฒน์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกจับและควบคุมไว้ในคดียาเสพติดและถูกฆ่าถึงแก่ความตายขณะอยู่ในความความควบคุมของเจ้าพนักงาน เมื่อช่วงระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ที่ สภ.นครสวรรค์
ด้าน นายวรินทร รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เปิดเผยว่า จากการตรวจรายละเอียดพยานหลักฐานในสำนวนแล้ว ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ไว้ในสำนวนค่อนข้างละเอียด ครบถ้วน ซึ่งตนมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งหมดที่จะนำสืบต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯจะพิจารณาพิพากษาลงโทษพวกจำเลยได้ โดยอดีต ผกก.โจ้กับพวกนั้น ไม่ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาให้อัยการพิจารณา และวันนี้อัยการฝ่ายคดีอาญาทุจริต 3 ได้นำสำนวนพร้อมพยานหลักฐานต่างๆ ที่พนักงานสอบสวนส่งให้อัยการพิจารณารวม 7 แฟ้ม ได้เสนอต่อศาลพิจารณาด้วย โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้ประทับฟ้องไว้ เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.180/2564 ไว้พิจารณา
อย่างไรก็ตาม ในท้ายคำฟ้องอัยการได้ยื่นคัดค้านการปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรง โทษสูงสุดคือประหารชีวิต หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าพวกจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดี
นายประยุทธ กล่าวว่า คดีนี้อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นผู้มีอำนาจสั่งคดีตามที่กฎหมายระบุไว้ว่าคดีวิสามัญฆาตกรรม หรือการตายระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ให้เป็นอำนาจของอัยการสูงสุด พิจารณาสั่งคดีเพียงคนเดียว ซึ่ง อสส.ได้พิจารณาสำนวนคดีอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จึงมีคำสั่งฟ้องครบทุกข้อหา โดยเฉพาะข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน ทารุณโหดร้าย ตาม ป.อาญามาตรา 289(5) โทษประหารชีวิตสถานเดียว
ทั้งนี้ เมื่ออัยการสูงสุดสั่งฟ้องแล้ว คณะพนักงานอัยการที่ได้รับมอบหมายก็ได้ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯเรียบร้อยแล้ว จากนั้นกระบวนการก็จะเข้าสู่การพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตฯต่อไป โดยอัยการสูงสุดไต้ตั้งคณะทำงานขึ้นรับผิดชอบคดีนี้รวม 6 คน โดยมีนายวุฒิรัตน์ มีผดุง รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน
เมื่อถามว่า การสั่งฟ้องข้อหาตามกฎหมาย ป.อาญา มาตรา 289(5) เจตนาฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย นั้นได้ยื่นฟ้องต่อ ผกก.โจ้ กับพวกเป็นคดีแรกหรือไม่ นายอิทธิพร โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า คดีนี้ไม่ใช่คดีแรกที่อัยการได้สั่งฟ้องข้อหาดังกล่าว ที่ผ่านมาอัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยอื่นๆในความผิดฐานนี้ อาทิ ไอซ์ หีบเหล็ก คดีฆ่ายกครัวที่ภาคใต้ คดีตั้งใจที่จะฆ่าและจุดไฟเผาทั้งเป็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่ ไม่ได้เจตนาฆ่าผู้ตายนั้น ทางอัยการมีความเห็นอย่างไร
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ และข้ออ้างการต่อสู้คดีของผู้ต้องหาทั่วไป ประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล
ส่วนที่มีข่าวปรากฎต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น เป็นเอกสารที่อื่น ไม่ใช่ของสำนักงานอัยการสูงสุด สิ่งที่อัยการสูงสุดท่านมีคำสั่งและดำเนินการเป็นไปตามที่แถลงในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลการสอบเพิ่มเติมในบางประเด็น เพิ่งส่งมาถึงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนที่คณะพนักงานอัยการที่รับผิดชอบคดีจะประชุมในช่วงเช้าเพื่อทำคำฟ้องและยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรับผิดชอบดำเนินคดีนี้ 6 คน ประกอบด้วย นายวุฒิรัตน์ มีผดุง รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน
นายรชต พนมวัน อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 3
นายครรชิต หุตะกมล อัยการผู้เชี่ยวชาญ
นายอรินทัต ศรีขจรลาภ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
ว่าที่ พ.ต.อ.ธงชัย กีรติธรรมากร อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด คณะทำงาน
และ นางธารณี โกญจนาท เดวิสัน อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด คณะทำงานและเลขานุการ