MGR Online - ม็อบระอุ! ผู้ชุมนุมถูกยิงหน้าอกได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ขณะเคลื่อนขบวนไปสถานทูตเยอรมนี ยังไม่ชัดเป็นอาวุธปืนชนิดใด ใครเป็นคนยิง ด้านรองโฆษก ตร.เผย เร่งพิสูจน์ทราบสาเหตุแล้ว
วันนี้ (14 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, กลุ่มทะลุฟ้า, กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG, กลุ่มเหล่าทัพราษฎร, ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย, SUPPORTER THAILAND, We Volunteer และคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) นัดชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนที่จะประกาศย้ายไปยังแยกปทุมวัน และเคลื่อนขบวนไปยังสถานทูตเยอรมนี
เมื่อเวลา 17.10 น. เมื่อขบวนเคลื่อนถึงหน้าโรงพยาบาลตำรวจ เกิดเสียงดังคล้ายอาวุธปืน 2 ครั้ง จากนั้นเวลา 17.12 น. มีเสียงดังคล้ายอาวุธปืนดังขึ้นอีก บริเวณด้านหน้าสถาบันนิติวิทยา และพบว่า มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นชายยังไม่ทราบชื่อ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่หน้าอก เจ้าหน้าที่พยาบาลรีบนำตัวส่ง รพ.จุฬาลงกรณ์
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ผู้ชุมนุมดังกล่าวถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดใด ขณะที่ตำรวจซึ่งทำหน้าที่ดูแลการชุมนุม ระบุว่า เป็นกระสุนยาง เพราะตำรวจไม่มีการใช้กระสุนจริงในการดูแลการชุมนุม
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า เวลา 17.00 น เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนตัวมาถึงบริเวณถนนอังรีดูนังต์ หน้าสถาบันนิติวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เกิดเหตุมีเสียงดังคล้ายวัตถุระเบิดขึ้น ได้รับรายงานมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ขณะนี้รักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยขณะนี้กำลังพิสูจน์ทราบถึงสาเหตุดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนไปยังสถานทูตเยอรมนี และได้ส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.จนถึงเวลา 18.45 น.จึงออกมาจากสุถานทูต และประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 18.50 น.ให้มวลชนเดินทางกลับทางถนนวิทยุ เลี้ยวขวาไปทางคลองเตย หรือขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี
อย่างไรก็ตาม ขณะที่แกนนำเข้ายื่นหนังสือที่สถานทูตเยอรมนี ช่วงเวลา 18.40 น.กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งเคลื่อนมาบริเวณแยกถนนวิทยุ เกิดเหตุมีเสียงดังคล้ายวัตถุระเบิดขึ้น ได้รับรายงานมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 1 ราย โดยขณะนี้กำลังพิสูจน์ทราบถึงสาเหตุดังกล่าว
ต่อมาเวลา 21.15 น.ศูนย์เอราวัณ รายงานว่า มีการนำส่งผู้รับบาดเจ็บเป็นชาย 3 ราย เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ เป็นชายไทยอายุ 18 ปี 23 ปี และ 33 ปี ให้กลับบ้านแล้ว 2 ราย มี 1 รายรับไว้รักษาตัวที่โรงพยาบาล