MGR Online - ผบ.ตร.สั่ง ผบช.ภ.9 สอบข้อเท็จจริงปมร้อนหมายจับคดีค้างเก่า“เสี่ยโจ้” ไม่อยู่ในระบบ ทั้งที่ศาลยืนยันส่งหมายให้ตำรวจตั้งแต่ 9 ต.ค. 57 ทำ ปชช.เคลือบแคลงสงสัย ลั่นหากพบมีตำรวจเอี่ยวผิด ให้ฟันทั้งวินัย-อาญา รายงานให้ทราบภายใน 3 วัน
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มีหนังสือคำสั่งวิทยุในราชการด่วนที่สุด ถึง พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 และให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส) และ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช.ทราบ
ใจความว่า ตามที่ปรากฏข่าวเผยแพร่ตามสื่อมวลชนต่างๆ กรณี นายสหชัย หรือ โจ้ เจียรเสริมสิน ได้รับการปล่อยตัวไป หลังจากพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง โดยมีการให้ข้อมูลว่า เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจับกุม นายสหชัย หรือ โจ้ ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 60/2564 ลง 19 ก.พ. 64 ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน แต่เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจส่งตัวนายสหชัย หรือ โจ้ แก่พนักงานอัยการแล้ว นายสหชัย หรือ โจ้ ได้รับการปล่อยตัวไป โดยที่ไม่ได้ส่งตัวนายสหชัย หรือ โจ้ เพื่อไปบังคับโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดปัตตานี ในความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ความผิดเกี่ยวกับดวงตรา เนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจตรวจสอบในสารบบแล้ว พบว่า มีหมายจับนายสหชัย หรือ โจ้ ของศาลจังหวัดสงขลา เพียงหมายจับเดียว โดยไม่พบหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี เจ้าพนักงานตำรวจ จึงมิได้นำตัวนายสหชัย หรือ โจ้ ส่งไปยังศาลจังหวัดปัตตานี
ต่อมา วันที่ 11 พ.ย. 64 สำนักงานศาลยุติธรรม ได้ออกข่าวแจกสื่อมวลชน ยืนยันว่า ศาลจังหวัดปัตตานี ส่งหมายจับ นายสหชัย หรือ โจ้ เจียรเสริมสิน ให้ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี และ ผกก.สภ.บ้านแหลม ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. 57 นั้น
“จากกรณีดังกล่าวทำให้ประชาชนเกิดความสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ จึงให้ ผบช.ภ.9 ตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว แล้วรายงานผลให้ทราบภายใน 3 วัน หากตรวจสอบแล้วปรากฏว่า มีกรณีเป็นที่สงสัยว่าข้าราชการตำรวจผู้ใดกระทำผิดวินัย หรือมีพฤติการณ์การกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิดอาญา ให้ ผบช.ภ.9 ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ทันทีจึงแจ้งมาเพื่อทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง” วิทยุสั่งการ ระบุ