MGR Online - “สนธิญา สวัสดี” ยื่นเรื่อง ปอท. สอบกลุ่มคลับเฮาส์เหยียดคนอีสาน เอาผิด พ.ร.บ.คอมพ์ ยันทุกคนมีศักดิ์ศรี เผย ไม่มีปัญหา “สิระ” ปลดจากที่ปรึกษา กมธ.กฎหมาย
วันนี้ (12 พ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายสนธิญา สวัสดี (อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษย์ชน สภาผู้แทนราษฏร) เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อให้ตรวจสอบกลุ่มคลับเฮาส์ toxic กรณีที่มีการดูถูกเหยียดหยามคนอีสาน เช่น ด่าคนอีสานว่ากินหมา คนอีสานจน ตัวดำ คนอีสานเป็นคนรับใช้คน กทม. ชอบเป็นเมียน้อย อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่ทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนคนไทย
นายสนธิญา กล่าวว่า ได้ติดตามกลุ่มคลับเฮาส์ toxic มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่ามีการกล่าวหา พูดบูลลี่ และมีการกระทำการที่หมิ่นพี่น้องชาวอีสาน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 4 ที่ว่าด้วยศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งตนได้จับตาว่าจะมีหน่วยงานส่วนกลางใดบ้างที่จะเข้ามาตรวจสอบ เพราะฉะนั้นที่มาร้องวันนี้จึงอยากให้ทาง ปอท.เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ในมาตรา 14(1) (2) (3) และ (5) หรือไม่ ซึ่งบัญญัติไว้ชัดเจนว่าการนำความเท็จมาพูด หรือการนำเข้าข้อมูลโพสต์ลงคอมพิวเตอร์ที่สร้างความแตกแยกทำให้เกิดความไม่เข้าใจอันดีต่อพี่น้องประชาชนและคนในประเทศ เป็นการกระทำที่ผิดต่อ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนตำรวจจะสามารถเอาผิดได้หรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจ ปอท.ที่ต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป
“คนเป็นมนุษย์ไม่ว่าจะเหนือใต้อีสาน หรือแอฟริกา มีสิทธิเท่าเทียมกันทางกฎหมาย มีเกียรติยศศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน” นายสนธิญา กล่าว
ส่วนกรณีที่ นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงนามปลดตนเองให้พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษากรรมาธิการนั้น นายสนธิญา กล่าวว่า ตนเองเป็นที่ปรึกษา กมธ.ของนายสิระ ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 63 ก็ผ่านมาหนึ่งปีกว่า ยอมรับว่า ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้เข้าประชุมคณะที่ปรึกษา กมธ. เนื่องด้วยเหตุผลจากสถานการณ์โควิด-19 หรืออาจเป็นเพราะความคิดที่ไม่ตรงกันในบางเรื่อง แต่ตนให้เกียรตินายสิระมาโดยตลอด เพราะท่านแต่งตั้งตนเข้ามา ซึ่งถือมารยาทมาตลอดว่าตนได้รับเกียรติ เมื่อไหร่ที่ตนไม่มีเกียรติ ก็ช่วยทำหนังสือบอก ตนก็พร้อมออก ทั้งนี้ ฝากขอบคุณ นายสิระ เจนจาคะ ด้วย แม้ในช่วงที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับ กมธ.กฎหมาย อยู่ 7-8 เดือน จะถูกดำเนินคดีอยู่ 2-3 คดี ในการฟ้องร้องก็ตาม ยืนยันว่า ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งไม่ได้มีปัญหาส่วนตัว ซึ่งตนก็พูดคุยกับนายสิระ อยู่ตลอด