สาวใหญ่วัย 53 ปี ร้องทนายรณณรงค์ ช่วยเหลือ หลังมิจฉาชีพหลอกให้เปิดบัญชีพร้อมขอรหัส otp จนตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกงทรัพย์ มีหมายเรียก 5 โรงพัก โดยที่ไม่ได้ใช้เงิน
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 64 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นางอิศรีย์ พฤกษ์พงศกร อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/23 หมู่ 11 ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง เดินทางเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานชมรม รณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยเหลือหลังตนเองตกเป็นผู้ต้องหา ถูกตำรวจ สน.บางซื่อ และอีก 4 โรงพักในต่างจังหวัดออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์” โดยที่ตนเองไม่ได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย เชื่อแน่ว่า คงถูกมิจฉาชีพที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก ซึ่งก่อนหน้านี้ หลอกจะโอนเงินช่วยเหลือมารดาที่ป่วยแต่สุดท้ายไม่ได้โอนตามที่บอก แต่กลับมีเงินผ่านบัญชีตนเองแล้วถอนออกไป โดยที่ตนเองไม่ได้ใช้ จึงกลายเป็นผู้ต้องหาตนอยากขอให้ ทนายรณณรงค์ช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้ด้วย
นางอิศรีย์ หรือ คุณเปิ้ล เผยว่า ตนรู้จักชายคนหนึ่งเป็นชาวเกาหลี คุยผ่านไอจี คุยกันปกติ เขาถามว่า ประเทศไทยเป็นยังไงอยากมาเที่ยว ตนได้ปรับทุกข์บอกไปว่าคุณแม่ไม่สบาย ก็เลยขอความช่วยเหลือจากเขาโดยที่เขาให้ตนไปเปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ เวลาโอนจะได้โอนผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพให้ เนื่องจากเขาก็ใช้บัญชีธนาคารกรุงเทพเหมือนกัน หลังจากเปิดบัญชีตนก็ให้หมายเลขบัญชีที่มีการเปิดจากธนาคารให้มากับเขาไป โดยเป็นเลขที่เขาสามารถเข้า otp ได้ ซึ่งเขาบอกว่าเขาจะจัดการทั้งหมดโดยที่นำเงินเข้าบัญชีได้เลย ตั้งแต่เปิดบัญชีมาจนขณะนี้ไม่เคยได้เงินเข้าบัญชีเลย ตอนหลังๆไม่ได้คุยกันเรื่องโอนบัญชีแล้วเนื่องจากเขาจะเปลี่ยนการโอนใหม่
ล่าสุด ได้รับข้อความผ่านมือถือว่าจะโอนเงินมาทางอินเตอร์เนชั่นแนล แต่ยังไม่เข้าบัญชีของตนเป็นลักษณะโชว์แค่ข้อความในมือถือเฉยๆ จู่ๆ มีตำรวจโทร.มาทางหลาน เนื่องจากติดต่อตนไม่ได้ ตำรวจแจ้งว่ามีผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาในบัญชีของตนกว่า 80,000 บาท ตนไม่ทราบมาก่อนว่ามีเงินเข้าบัญชี ทางตำรวจบอกว่าถ้าไม่ใช่เงินของตนให้คืนเงินไป ไม่อย่างนั้นทางผู้เสียหายจะแจ้งความดำเนินคดี ตอนนี้ตนมีหมายเรียกทั้งหมด 5 โรงพัก แต่ได้ไปพูดคุยแค่เพียงโรงพักเดียว คือ โรงพักบางซื่อ ตอนนี้โดนแจ้งอายัดบัญชี แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา แต่ทางพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ บอกว่า เดี๋ยวจะมีหมายตามมา วันนี้ตนอยากจะให้ทนายรณณรงค์ช่วยเหลือ เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาโดยที่ไม่ได้ใช้เงิน แต่กลับมาโดนข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ และตนไม่ทราบมาก่อนว่า บัญชีธนาคารของตนถูกแก๊งสแกมเมอร์ ขโมยข้อมูลไป
ทางด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เรื่อง รหัส โอทีพี เวลามีใครมาขออย่าไปให้เขาถ้ามีใครได้รหัสโอทีพีไปเขาจะได้ข้อมูลการทำธุรกรรมทางออนไลน์ธนาคารของเรา และถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อย่างแรกต้องขอให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มอันนี้ยังดีที่ไม่ได้เปิด ATM ต้องให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มว่าตัวเราไม่ได้เกี่ยวข้อง และไม่รู้เห็น เราก็ถูกหลอกมาเหมือนกันในทางอาญามองว่าเราขาดเจตนาที่ถ้าเราเห็นหมายเรียกบนโต๊ะ ผู้เสียหายต้องไปพบพนักงานสอบสวน ทุกโรงพัก อย่างแรกถ้าพนักงานสอบสวนพิสูจน์ได้ว่าทางผู้เสียหายร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จคงต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าไม่มีหลักฐานมาถึงและไม่มีข้อมูลว่ามีเงินออกทางผู้เสียหายไม่ต้องรับผิดชอบ ต้องให้ตำรวจไปตามต่อว่าโอนบัญชีไปที่ไหน