“ศรีริต้า เจนเซ่น” ดาราสาว เบิกความไต่สวนคดีผู้ต้องหาเผยแพร่คลิปอนาจาร ยันเป็นคลิปตัดต่อ ทำให้อับอาย คนเข้าใจผิด และเสื่อมเสียชื่อเสียง เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท ศาลนัดฟังคำสั่งประทับฟ้องหรือไม่ 13 ธ.ค.นี้
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (8 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก น.ส.ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช ดารานักแสดงสาวชื่อดัง
กับ นายกรณ์ ณรงค์เดช สามี พร้อม น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายนิด้า ได้เดินทางเพื่อไต่สวนมูลฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ.1582/2564 ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเชฎฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287(1), 326, 328, 397, ทำให้ได้รับความอับอาย, ทำให้แพร่หลายซึ่งสิ่งลามก และ เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลที่มีผู้นำเข้าอันลักษณะลามก ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14(5) และเรียกค่าเสียหาย จำนวน 1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย
กรณีเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2564 เวลา ประมาณ 22.05 น. จำเลยได้นำคลิปวิดีโอที่ถูกตัดต่อเชิงอนาจาร เผยแพร่ลงในเฟซบุ๊ก
ที่เป็นสื่อออนไลน์อย่างแพร่หลาย โดยนำข้อความเว็บไซต์คลิปวิดีโอการร่วมเพศระหว่างหญิงและชาย ที่มีการระบุชื่อคลิปเป็นชื่อโจทก์และมีภาพถ่ายโจทก์ประกอบในคลิปวิดีโออันถือเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์มาเผยแพร่ หรือส่งต่อให้แก่ผู้อื่นโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะลามกและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง
โดยวันนี้ นำพยานเข้าไต่สวนจำนวน 2 ปาก คือ น.ส.ศรีริต้า และพยานที่เป็นพลเมืองดีอีก 1 ปาก ภายหลังเบิกความต่อศาลเสร็จแล้ว
น.ส.ศรีริต้า ได้ให้สัมภาษณ์ว่า มาเบิกความที่ศาล เพราะได้ฟ้องร้องเป็นคดีอาญากับบุคคลที่ตัดต่อเผยแพร่ และระบุว่า คลิปอนาจารเป็นตนเอง ซึ่งขอยืนยันว่า คนในคลิปไม่ใช่ตนเอง แต่มีคนนำรูปของตนจาก Instagram ไปตัดต่อกับคลิปที่เป็นลามกอานาจารของฝรั่ง เพื่อให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นตน ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ลดทอนคุณค่าและศักดิ์ศรี ซึ่งตนเองนั้นทำงานในวงการมา 26 ปี ตนมั่นใจว่า ทำแต่สิ่งดีๆ ทำงานที่สุจริตและตั้งใจรักในอาชีพ ดังนั้น เหตุการณ์นี้จึงเป็นเหตุการณ์ที่น่าเกลียด ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง อับอายอย่างมาก และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
น.ส.ศรันยา หรือ ทนายนิด้า กล่าวว่า เราดำเนินการฟ้องรวม 4 ข้อหา คือ 1. หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา 2. ทำให้ได้รับความอับอาย 3. ทำให้แพร่หลายซึ่งสิ่งลามก 4. เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลที่มีผู้นำเข้าอันลักษณะลามก ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และครั้งนี้มีการกระทำผิดเรื่องการหมิ่นประมาทด้วย เป็นการกระทำซึ่งผิดกฎหมายหลายบท ซึ่งเราฟ้องทุกข้อหา แล้วแต่ทางศาลจะพิจารณา ซึ่งโทษสูงสุดของการเผยแพร่สื่อลามก คือ จำคุก 7 ปี ปรับ 2 แสนบาท และยังเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท ถึงแม้ว่าเงินจะไม่สามารถเยียวยาความเสียหายได้ก็ตาม แต่เราต้องเรียกค่าเสียหายเพื่อให้จำเลยรู้สึกสำนึกถึงการกระทำ
น.ส.ศรันยา กล่าวต่อว่า เราไม่ได้ยืนยันว่าจำเลยในคดีนี้เป็นผู้ตัดต่อ เราจะพูดในส่วนที่ยืนยันได้ว่า เขาเป็นคนเผยแพร่ ซึ่งในข้อความที่เผยแพร่นั้น มีคลิปที่คนมีเพศสัมพันธ์กัน และนำรูปของ คุณศรีริต้า ขึ้นก่อน เสมือนว่าคนในคลิปคือคุณศรีริต้า และใช้ชื่อจริง ถ่ายรูปหน้าของคุณศรีริต้าหลายๆ รูป และเผยแพร่ให้กับบุคคลเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ถ้าเราพบเห็นว่ามีคนกระทำความผิดเช่นนี้อีกก็จะดำเนินการฟ้องทั้งหมด ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำสั่งว่าจะประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาหรือไม่ วันที่ 13 ธ.ค. 2564
ส่วน นายกรณ์ สามีของนักแสดงสาว กล่าวว่า สงสารและเห็นใจศรีริต้ามาก เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตเขาที่มาศาล กับเรื่องที่เขาไม่ได้เป็นคนทำ อย่างที่บอกว่าก่อนที่จะมาดำเนินคดีก็ได้ปรึกษากันแล้ว ว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่ในวงการบันเทิง ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียง และเขาก็มีลูกแล้วด้วย ก็ไม่อยากให้ลูกหรือคนอื่นๆ เข้าใจผิดว่า คนในคลิปเป็นเขา ตนก็สนับสนุนให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด กับคนที่ตัดต่อ คนที่แชร์ไปแล้ว หรือคนที่กำลังจะแชร์ในอนาคต